- นักลงทุนวิตกสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังระบาดเพิ่มขึ้นไม่หยุด
- ตัวเลขจีดีพีประจำไตรมาส 2/2563 เศรษฐกิจสหรัฐหดตัวลง 32.9%
- ผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 1.434 ล้านราย สูงกว่าสัปดาห์ก่อน
เมื่อเวลา 21.10 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ 26,053.17 จุดร่วงลงแรง 486.40 จุด หรือ -1.83% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 10,459.34 จุด ลดลง 83.60 จุด หรือ -0.79% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 3,214.45 จุด ลดลง 43.99 จุดหรือ -1.35%
นักลงทุนกลับมาวิตกสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังระบาดเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทั่วโลก และเพิ่มสูงขึ้นในสหรัฐ และเทขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยงอีกครั้ง หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐติดลบรุนแรงในไตรมาสที่ 2 ขณะทีตัวเลขคนว่างงานยังพุ่งขึ้นสูงกว่า 1 ล้านคนต่อเนื่อง
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ( GDP) ประจำไตรมาส 2/2563 โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐหดตัวลง 32.9% ซึ่งเป็นการหดตัวรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ที่สหรัฐเริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในปี 2490 หรือกว่า 70 ปีก่อนหน้านี้ หลังจากหดตัว 5% ในไตรมาส 1 อย่างไรก็ดี ตัวเลข GDP ประจำไตรมาส 2/2563 ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะหดตัวลง 34.7%
การหดตัวของ GDP ในไตรมาส 2/2563 รุนแรงกว่าที่ได้หดตัว 10% ในไตรมาสแรกของปี 2501 และการหดตัว 8.4% ในไตรมาส 4 ของปี 2551 โดยการหดตัวของเศรษฐกิจสหรัฐทั้งในไตรมาส 1 และ 2 ของปีนี้ได้ทำให้สหรัฐเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย เนื่องจากมีการหดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน
การทรุดตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาส 2 ได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาล ซึ่งทำให้มีการปิดเศรษฐกิจเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 1.434 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.45 ล้านราย อย่างไรก็ตาม ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในวันนี้ ยังคงสูงกว่าที่มีการรายงานในสัปดาห์ที่แล้ว โดยตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้น 2 สัปดาห์ติดต่อกัน และยังคงมีจำนวนมากกว่า 1 ล้านรายติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 19 แม้ว่ารัฐต่างๆได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และได้เปิดเศรษฐกิจครั้งใหม่
ทั้งนี้ จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 17.018 ล้านรายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 18 ก.ค. หลังจากพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์สู่ระดับ 24.912 ล้านรายในช่วงต้นเดือนพ.ค.
