.นักลงทุนเชื่อมั่นแนวโน้มฟื้นตัส หลังตัวเลขเศรษฐกิจออกมาแข็งแกร่ง
.ตลาดจับตาผลประกอบการภาคธนาคารยังออกมาดีกว่าคาด
.ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 1 ปี
เมื่อเวลา 22.00น. ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 34,168.93 จุด เพิ่มขึ้น 132.94 จุด หรือ +0.39% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 14,028.37 จุด ลดลง 10.39 จุด หรือ -0.07% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,177.51 จุด เพิ่มขึ้น 7.09 จุด +0.17%
ดัชนีดาวโจนส์ ยังคงเดินหน้่ สถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เหนือระดับ 34,000 โดยได้แรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ และการเปิดเผยผลประกอบการที่สดใสของภาคธนาคาร โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า บริษัทในดัชนี S&P 500 จะรายงานผลกำไรพุ่งขึ้น 25% ซึ่งจะเป็นผลประกอบการไตรมาสแรกที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ปี 2561 ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เดินหน้าทำนิวไฮเช่นกัน
ทั้งนี้ ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับ 86.5 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี จากระดับ 84.9 ในเดือนมี.ค. แต่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 89.6
การพุ่งขึ้นของดัชนีความเชื่อมั่นได้รับแรงหนุนจากการขยายตัวที่แข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่มีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในวงกว้าง
ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านพุ่งขึ้น 19.4% ในเดือนมี.ค. สู่ระดับ 1.739 ล้านยูนิต โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.613 ล้านยูนิต
มอร์แกน สแตนลีย์เปิดเผยว่า ทางธนาคารมีกำไรและรายได้ในไตรมาส 1 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยธนาคารมีกำไรที่ระดับ 2.19 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.70 ดอลลาร์/หุ้น ขณะเดียวกัน ธนาคารมีรายได้ 1.572 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.41 หมื่นล้านดอลลาร์
