

ตลาดหุ้นสหรัฐฯผันผวนในวันสิ้นเดือน พ.ย.ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้น นักลงทุนเก็งธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)หั่นดอกเบี้ยปีหน้า หลังยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น
- ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 7,000 ราย
- ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ชะลอตัวจากเดือนก.ย.
- มีแรงซื้อหุ้นเข้ามาเพื่อสะสม หลังมองสถานการณ์เศรษฐกิจคลี่คลาย
เมื่อเวลาประมาณ 22.15 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 35,704.65 จุด เพิ่มขึ้นแรง 274.23 จุดหรือ+0.77% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ 4,548.69 จุด ลดลงเล็กน้อย 1.89 จุดหรือ–0.04% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส อยู่ที่ 14,242.13 จุด ลดลง16.36 จุด หรือ–0.11%
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 7,000 ราย สู่ระดับ 218,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องเพิ่มขึ้น 86,000 ราย สู่ระดับ 1.927 ล้านราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนี PCE ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.0% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 3.4% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE ทั่วไป ทรงตัวในเดือนต.ค. หรือปรับตัวขึ้น 0.0% ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 0.1% จากระดับ 0.4% ในเดือนก.ย.
ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ ปรับตัวขึ้น 3.5% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 3.7% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนต.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 0.3% ในเดือนก.ย.
การพุ่งขึ้นของตลาดได้รับแรงหนุนจากการว่างง่นที่เพิ่มขึ้นและเงินเฟ้อที่ชะลอ ทำให้มีการคาดการณ์ว่า เฟดได้ยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว หลังจากที่ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 11 ครั้งนับตั้งแต่ที่เริ่มวัฏจักรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.2565 ส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 5.25%
นักลงทุนเทน้ำหนักในการคาดการณ์ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.2566, ม.ค.2567 และมี.ค.2567 ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนพ.ค.2567 และมิ.ย.2567
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 95.8% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือนธ.ค.2566
ขณะเดียวกัน นักลงทุนคาดว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือนม.ค.2567 และมี.ค.2567 ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเดือนพ.ค.2567 และปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.75-5.00% ในการประชุมเดือนมิ.ย.2567