

.ดัชนีดาวโจนส์ทำนิวไฮแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
.นักลงทุนคลายกังวลอัตราเงินเฟ้อสหรัฐที่ออกมาไม่พุ่งขึ้นสูงกว่าคาด
.ตลาดได้แรงหนุนจากการอนุมัติร่างกฎหมายการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ของวุฒิสภา
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันที 11ส.ค.ที่ 35,484.97 จุด เพิ่มขึ้น 220.30 จุด หรือ +0.62% และดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,447.70 จุด เพิ่มขึ้น 10.95 จุด หรือ +0.25% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 14,765.14 จุด ลดลง 22.95 จุด หรือ -0.16%
นักลงทุนกลับมาซื้อหุ้นแทบทุกกลุ่ม หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนก.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดเมื่อเทียบรายเดือนในรอบ 15 เดือน และได้ช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อซึ่งอาจจะกระตุ้นให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มปรับลดนโยบายผ่อนคลายเป็นพิเศษลงเร็วกว่าคาด
นายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัสกล่าวว่า เฟดอาจจะมีการประกาศในเดือนหน้าเกี่ยวกับไทม์ไลน์ในการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และเริ่มทำการปรับลด QE ในเดือนต.ค.
ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่วุฒิสภาสหรัฐอนุมัติร่างกฎหมายการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ รวมถึงการอนุมัติแผนงบประมาณเพิ่มเติมวงเงิน 3.5 ล้านล้านดอลลาร์ด้วย
นักลงทุนซื้อหุ้นที่เกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดนการเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส2ที่ส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าเป็นอึกปัจจัยช่วยหนุนตลาด โดยหุ้นคอยน์เบส โกลบอล พุ่ง 3.24% หลังเปิดเผยผลกำไรไตรมาส 2 สูงเกินคาด
ขณะที่หุ้นนอร์ตันไลฟ์ล็อค พุ่ง 8.7% หลังตกลงซื้อกิจการของบริษัทเอวาสต์ของอังกฤษเป็นมูลค่า 8.6 พันล้านดอลลาร์