ดาวโจนส์ปิดบวก 101 จุด ลดกังวลเศรษฐกิจถดถอย

Business team investment trading do this deal on a stock exchange. People working in the office.


  • มีแรงซื้อเข้าหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมหนุนดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดบวก
  • นักลงทุนบางส่วนมองตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ยังไม่ย่ำแย่ แสดงภสวะเศรษฐกิจที่ไปต่อได้
  • ตลาเจับตาข้อมูลเงินเฟ้อและรายงานผลประกอบการของธนาคารสหรัฐในสัปดาห์นี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 10เม.ย.ที่ 33,586.52 จุด เพิ่มขึ้น 101.23 จุด หรือ +0.30%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,109.11 จุด เพิ่มขึ้น 4.09 จุด หรือ +0.10% ส่วนดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 12,084.36 จุด ลดลง 3.60 จุด หรือ -0.03%

นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงกังวลการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ส่งผลให้มีการชะลอการซื้อขายหุ้น อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมซึ่งมีความอ่อนไหวต่อเศรษฐกิจ พุ่งขึ้นนำตลาดเมื่อคืนนี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นมุมมองของนักลงทุนอคกส่วนที่ว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งมากพอที่จะต้านทานผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

โดยหุ้นแคทเธอร์ พิลลาร์ พุ่งขึ้น 3.04% หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) เพิ่มขึ้น 0.81% หุ้นฮันนีเวลล์ บวก 0.64% หุ้น 3M ดีดขึ้น 1.18%

โดยตลาดมองว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรทออกมาใกล้เคียงกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และอัตราการว่างงานที่ลดลงแสดงถึงเศรษฐกิจที่ยังไปต่อได้ อย่างไรก็ตาม ในทางตรงกันข้ามก็อาจทำให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่อง

โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 63.4% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ค. และให้น้ำหนักเพียง 36.6% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.75-5.00%

หุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิปพุ่งขึ้น หลังมีรายงานว่าบริษัทซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ของเกาหลีใต้ มีแผนที่จะปรับลดการผลิตชิป โดยหุ้นไมครอน เทคโนโลยี ทะยานขึ้น 8.04% หุ้นอินวิเดีย พุ่งขึ้น 2% หุ้นควอลคอมม์ บวก 1.05% หุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ (AMD) พุ่งขึ้น 3.26%

นักลงทุนจับตาบริษัทจดทะเบียนของสหรัฐจะเริ่มรายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้ โดยธนาคารขนาดใหญ่ ได้แก่ เจพีมอร์แกน เชส, ซิตี้กรุ๊ป และเวลส์ ฟาร์โกจะรายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 1/2566 ในวันศุกร์นี้ ขณะที่ข้อมูลจาก Refinitiv IBES ระบุว่า นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า บริษัทในดัชนี S&P 500 จะรายงานตัวเลขกำไรหดตัวลง 5.2% ในไตรมาส 1/2566 หลังจากคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจะมีกำไรเพิ่มขึ้น 1.4% ในไตรมาสดังกล่าว

นอกจานั้น ยังจับตาสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนมี.ค.ในวันพุธที่ 12 เม.ย. รวมทั้งรายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดประจำวันที่ 21-22 มี.ค.ในวันดังกล่าวด้วย