ดาวโจนส์ปิดบวกเล็กน้อย 27จุด ลดกังวลเงินเฟ้อ



.มีแรงซื้อสลับแรงขายเก็งกำไร ตลาดหุ้นสหรัฐยังผันผวนรอดูทิศทางเศรษฐกิจ
.นักลงทุนคลายกังวลเงินเฟ้อดัชนี PPI ปรับตัวลง 0.5% ในเดือนก.ค. ต่ำกว่านักวิเคราะห์คาด
.ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 11ส.ค.ที่ 33,336.67 จุด เพิ่มขึ้น 27.16 จุด หรือ +0.08%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,207.27 จุด ลดลง 2.97 จุด หรือ -0.07% ส่วนดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 12,779.91 จุด ลดลง 74.89 จุด หรือ -0.58%

ดัชนีดาวโจนส์ได้แรงหนุน หลังจากที่มีการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐลดลงเกินคาดในเดือนก.ค. ซึ่งทำให้ลดความกังวลภาะเงินเฟ้อลง และมีการคาดการณ์กันว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนก.ย. แทนที่จะปรับขึ้นถึง 0.75% ที่คาดการณ์กันไว้ก่อนหน้านี้

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันพฤหัสบดี (11 ส.ค.) ว่า ดัชนี PPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ปรับตัวลง 0.5% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.2% หลังจากปรับตัวขึ้น 1.0% ในเดือนมิ.ย

ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน โดยเพิ่มขึ้น 14,000 ราย สู่ระดับ 262,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว

นักลงทุนซื้อขายหุ้นรายกลุ่มเก็งกำไรตามข่าวที่ออกมา โดยมองว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องเพื่อดูแลเงินเฟ้อ แต่คงไม่ได้ขึ้นแรงๆ ต่อเนื่องอย่างที่ผ่านมา ทั้งนี้ ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับขึ้นแรงในช่วงแรกก่อนมีแรงขายออกมา

หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ปรับตัวลดลง ขณะที่กลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นมากที่สุด 3.2% หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ และหุ้นเจพีมอร์แกน เชส บวก 1.1% และ 1.5% ตามลำดับ

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลง โดยหุ้นเทสลา ร่วง 2.6% และหุ้นแอมะซอน.คอม ร่วง 1.5%

ส่วนหุ้นวอลท์ ดิสนีย์ พุ่งขึ้น 4.7% หลังเปิดเผยจำนวนลูกค้าสตรีมมิ่งเพิ่มขึ้นแซงหน้าเน็ตฟลิกซ์แตะ 221 ล้านราย และประกาศจะปรับเพิ่มราคาค่าบริการแพ็กเกจดิสนีย์พลัส หรือ ฮูลู สำหรับการรับชมความบันเทิงแบบไม่มีโฆษณาคั่น