

.นักลงทุนจับตาการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน FOMC วันที่ 2-3 พ.ย.นี้
.ตลาดคาดเฟดจะประกาศปรับลดวงเงิน QE ในการประชุมรอบนี้
.ผลประกอบการที่ยังออกมาดี-เศรษฐกิจที่ฟื้นต่อเนื่องช่วยพยุงตลาด
เมื่อเวลาประมาณ 21.55 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 35,804.00 จุด ลดลงเล็กน้อย
15.56 จุด หรือ -0.04% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 15,514.07 จุด เพิ่มขึ้น 15.68 จุด หรือ +0.10% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,597.16 จุด ลดลง 8.22 จุด หรือ -0.18%
ตลาดหุ้นสหรัฐผันผวน โดยดัชนีพุ่งขึ้นในแดน[วกในช่วงแรก แต่กลับลดลงมาติดลบ และเคลื่อนไหวแกว่งตัวในช่วงแคบ อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการที่ดีของกลุ่มเทคโนโลยี และแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ทำให้หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ และบางตัวในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวเพิ่มขึ้น
นักลงทุนจับตาการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน FOMC วันที่ 2-3 พ.ย.นี้ โดยมองว่ามีความชัดเจนขึ้นที่ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประกาศปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ย. ก่อนที่จะปรับลดจริงในการประชุมเดือนธ.ค. ซึ่งจะทำให้เฟดยุติมาตรการ QE โดยสิ้นเชิงในกลางปี 2565 หลังจากนั้นจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในกลางปีหน้า หลังจากที่สหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นในเดือนก.ย.
FedWatch Tool ของ CME Group ซึ่งวิเคราะห์การซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดมีแนวโน้ม 50% ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนมิ.ย.2565 เทียบกับตัวเลขคาดการณ์เพียง 15% ก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกัน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวขึ้นในวันนี้เช่นกัน