

.นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) วันแรก
.ตลาดกังวลแม้เฟดจะคงดอกเบี้ยครั้งนี้ แต่คงดอกเบี้ยสูงนานกว่าคาด
.ราคาน้ำมันดิบโลกพุ่งทะลุ 92 เหรียญฯ กดดันเงินเฟ้อพุ่ง
เมื่อเวลาประมาณ 21.50 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 34,391.92 จุด ลดลง 232.38 จุดหรือ –0.67% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ 4,429.83 จุด ลดลง 23.70จุด หรื –0.53%ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส อยู่ที่ 13,592.37 จุด ลดลง 117.87 จุดหรือ–0.86%
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐแกว่งตัวแคบ นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) วันแรกในวันนี้ ก่อนที่จะมีการแถลงผลการประชุมในวันพรุ่งนี้
นักลงทุนเทน้ำหนักเกือบ 100% ในการคาดการณ์ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 99.0% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 19-20 ก.ย. และให้น้ำหนักเพียง 1.0% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.50-5.75%
ตลาดยังติดตามทิศทางของนโยบายการเงินในช่วงต่อไป โดยใยการประชุมนโยบายการเงินรอบนี้ เฟดจะเปิดเผยคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด (dot plot) รวมทั้งตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อ การว่างงาน และการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ
ขณะเดียวกัน นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด จะจัดการแถลงข่าวหลังการประชุมเพื่อชี้แจงทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ทั้งนี้ นักลงทุนกังวลราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น จะทำให้เฟดต้องคงดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูงนานกว่าที่คาด ส่งผลให้หุ้นเทคโนโลยีซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยปรับตัวลดลง
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนต.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX บวก 0.96 ดอลลาร์ หรือ 1.05% สู่ระดับ 92.44 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทั้งนี้ ราคาน้ำมัน WTI พุ่งขึ้นติดต่อกัน 3 สัปดาห์ แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2565 และมีแนวโน้มทำสถิติทะยานขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบรายไตรมาสนับตั้งแต่ที่รัสเซียส่งกำลังทหารโจมตียูเครนในไตรมาส 1 ของปี 2565
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า การผลิตน้ำมันของสหรัฐจากแหล่งชั้นหินดินดานมีแนวโน้มที่จะลดลงสู่ระดับ 9.393 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. และจะเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 3 เดือน
ขณะทีาสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ระบุเตือนว่า การปรับลดอุปทานน้ำมันของซาอุดีอาระเบียและรัสเซีย จะทำให้ตลาดเกิดภาวะขาดแคลนน้ำมันในไตรมาส 4
ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านดิ่งลง 11.3% สู่ระดับ 1.283 ล้านยูนิตในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2563 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.440 ล้านยูนิต
ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านได้รับผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง
ส่วนการอนุญาตก่อสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 6.9% สู่ระดับ 1.443 ล้านยูนิตในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน