ดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 170 จุด เงินเฟ้อขึ้นตามคาด



.นักลงทุนกลับมาซื้อหุ้นคืน หลังคลายกังวลว่า อัตราเงินเฟ้อจะพุ่งสูง
.ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวขึ้น 0.5% ในเดือนก.ค.เป็นไปตามที่นักวิเคราะห์คาด
.จับตาการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค.

เมื่อเวลา 22.05 น. ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 35,443.30 จุด เพิ่มขึ้น 178.63 จุด หรือ +0.51% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 14,722.23 จุด ลดลง 65.86 จุด หรือ -0.45% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,440.83 จุด เพิ่มขึ้น 4.08 จุดหรือ +0.09%

ดัชนีดาวโจนส์กลับมาดีดขึ้นอีกครั้ง หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค โดยระบุว่า ดัชนี CPI ปรับตัวขึ้น 0.5% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากดีดตัวขึ้น 0.9% ในเดือนมิ.ย.

เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI พุ่งขึ้น 5.4% ในเดือนก.ค. ใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.3% หลังจากทะยานขึ้น 5.4% เช่นกันในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2551

นอกจากนี้ หากไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ดัชนี CPI พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.4% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI พื้นฐานดีดตัวขึ้น 4.3% ในเดือนก.ค. หลังจากพุ่งขึ้น 4.5% ในเดือนมิ.ย.

นักลงทุนคลายกังวลกลับมาซื้อหุ้น หลังอัตราเงินเฟ้อเป็นไปตามคาด โดยจับตาการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค. โดยคาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งแนวโน้มการปรับลดวงเงิน QE ในการประชุมดังกล่าว

ราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลดลง เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ขยับขึ้นสู่ระดับ 1.357% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2.011%