- นักลงทุนกลับมาซื้อหุ้นร้อนแรง หลังรอดูสถานการณ์ในช่วงก่อนหน้า
- ผู้เชี่ยวชาญคาดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เข้าสู่ขาลง
- หุ้นเทคโนโลยี-ประกันสุขภาพพุ่งแรงหนุนตลาดปรับขึ้นสดใส
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 12ก.พ.ที่ 29,551.42 จุด พุ่งขึ้น 275.08 จุด หรือ +0.94% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,379.45 จุด เพิ่มขึ้น 21.70 จุด หรือ +0.65% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 9,725.96 จุด เพิ่มขึ้น 87.02 จุด หรือ +0.90%
นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือไวรัสโควิด-19 ซึ่งเป็นชื่ออย่างเป็นทางการ หลังจากคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) แถลงเมื่อวานนี้ว่า ณ วันอังคารที่ 11 ก.พ. จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้น 2,015 ราย ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในสัดส่วนต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์หรือนับตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค.
ข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับที่นายโซ่ง หนานชาน ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาของจีนได้แสดงความเห็นว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในจีนจะสูงสุดในเดือนนี้ และจะเบาบางลงในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนหลังจากนายพาวเวลแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาเมื่อวานนี้ว่า โดยมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังอยู่ในทิศทางการขยายตัวที่ดี และเฟดพร้อมจะใช้มาตรการทางการเงินพยุงเศรษฐกิจ เมื่อมีความจำเป็น ในระยะต่อไป
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และหุ้นบริษัทที่ลงทุนจำนวนมากในประเทศจีน พุ่งขึ้นขานรับสถานการณ์เชิงบวกของไวรัสโควิด-19 ในจีน โดยหุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 2.37% หุ้นไมครอน เทคโนโลยี ทะยานขึ้น 3.5% หุ้น Nvidia พุ่งขึ้น 1.7% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ พุ่งขึ้น 1.69% หุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ พุ่งขึ้น 1.63% หุ้นควอลคอมม์ เพิ่มขึ้น 1.9% หุ้นบรอดคอมม์ ปรับตัวขึ้น 1.4% หุ้นไมโครซอฟท์ บวก 0.15% หุ้นอเมซอนดอทคอม บวก 0.43%
หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ทะยานขึ้นกว่า 2% เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 1.2% หุ้นเชฟรอน เพิ่มขึ้น 0.7% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม พุ่งขึ้น 3.2% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน พุ่งขึ้น 2.8% หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี บวก 3.2% หุ้นอาปาเช คอร์ป พุ่งขึ้น 1.1%
หุ้นกลุ่มธุรกิจประกันสุขภาพพุ่งขึ้น โดยหุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์กรุ๊ป พุ่งขึ้น 4.3% หุ้นฮูมานา พุ่งขึ้น 4.6% หุ้นเอชซีเอ เฮลธ์แคร์ บวก 0.67%
ทั้งนี้ มีแรงขายทำกำไรในหุ้นบางตัว โดยหุ้นซีวีเอส เฮลธ์ คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายยารายใหญ่ของสหรัฐ ปิดตลาดขยับลง 0.1% หลังจากทะยานขึ้นในระหว่างวัน จากการที่ตลาดขานรับผลกำไรในไตรมาส 4 ของบริษัทสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
หุ้น CME Group Inc ซึ่งเป็นบริษัทบริหารจัดการตลาดซื้อขายล่วงหน้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก ร่วงลง 1.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรในไตรมาส 4 ที่ระดับ 1.52 ดอลลาร์/หุ้น ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.55 ดอลลาร์/หุ้น
หุ้น Lyft ผู้ให้บริการรถร่วมเดินทาง ซึ่งเป็นคู่แข่งรายสำคัญของ Uber ร่วงลง 10.16% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์รายได้ในปีงบการเงิน 2563
ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการประกาศเมื่อคืนนี้ สมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองเพิ่มขึ้น 1.1% ในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองปรับตัวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี