

- ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน มี.ค.เพิ่มขึ้นต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาด
- นักลงทุนติดตามทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ-หวั่นเฟดขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคา
- ตลาดกังวลเศรษฐกิจถดถอย หลัง ตลาดพันธบัตรสหรัฐเกิดภาวะ inverted yield curve รอบใหม่
เมื่อเวลาประมาณ 21.55 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 34,694.60
จุด เพิ่มขึ้น 16.25 จุด หรือ +0.05% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 14,280.10 จุด เพิ่มขึ้น 59.59 จุด ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 4,537.25 จุด เพิ่มขึ้น 6.84 จุดหรือ +0.15%
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวผันผวน ติดตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ร้อนแรงในช่วงก่อนหน้าว่าจะชะลอตัวลงเร็วกว่าที่คาด ซึ่งจะกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐรุนแรงกว่าที่คาด ขณะที่นักลงทุนเป็นห่วงว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะได้รับผลกระทบจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ แม้สหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่ต่ำกว่าคาดในวันนี้
โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยวันนี้ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 431,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 490,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานปรับตัวลงสู่ระดับ 3.6% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.7%
ตลาดพันธบัตรสหรัฐเกิดภาวะ inverted yield curve หรือ ภาวะอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นสูงกว่าพันธบัตรระยะยาวอีกครั้ง โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 3 ปี พุ่งขึ้นสู่ระดับ 2.626% ในวันนี้ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 2.576% โดยอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรดังกล่าวอยู่สูงกว่าพันธบัตรอายุ 10 ปี ซึ่งอยู่ที่ระดับ 2.448% ขณะที่พันธบัตรอายุ 30 ปีอยู่ที่ระดับ 2.536% ซึ่งอาจจะส่งสัญญาณการเข้าสู่เศรษกิจถดถอย
ด้านราคาน้ำมันดิบยังคงร่วงลงอย่างต่อเนื่องในวันนี้ โดยล่าสุด สัญญาล่วงหน้า WTI หลุดระดับ 100 ดอลลาร์ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์หลุด 104 ดอลลาร์
มอร์แกน สแตนลีย์ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจของจีนในปี 2565 ลงในวันนี้ ขณะที่ซิตี้กรุ๊ปเตือนว่า เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มเผชิญกับความเสี่ยงในไตรมาส 2/2565 เนื่องจากรัฐบาลประกาศใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ หรือ Zero-COVID เพื่อต่อสู้กับการระบาดของโรคโควิด-19