ดาวโจนส์ทรงๆ ตัว อยู่ในแดนบวกกว่า 100 จุด หลังดิ่งนรกวานนี้



.นักลงทุนกลับมาซื้อหุ้นสะสม รอปัจจัยบวกใหม่ๆ มาเสริมความเชื่อมั่น
.ตลาดคาดการณ์ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ขึ้นดอกเบี้ย 1% ในการประชุมสัปดาห์หน้า
. ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน แสดงเงินเฟ้อผู้ผลิตเริ่มแผ่ว

เมื่อเวลาประมาณ 22.05 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 31,206.20 จุด เพิ่มขึ้น
101.23 จุด หรือ +0.33% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 11,701.60 จุด เพิ่มขึ้น 68.02 จุด หรือ +0.58% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500เคลื่อนไหวที่ระดับ 3,950.56 จุด เพิ่มขึ้น 17.87 จุด หรือ +0.45%

ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย หลังดิ่งลงกว่า 1,200 จุดวานนี้ หลังคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ นักลงทุนเพิ่มการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในเดือนนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) สูงกว่าคาด

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 36% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00% สู่ระดับ 3.25-3.50% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. และให้น้ำหนัก 64% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75%

อย่างไรก็ตาม กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน ถือเป็นสัญญาณบวกให้กับตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันนี้ได้บ้าง โดย ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ลดลง 0.1% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากปรับตัวลง 0.4% ในเดือนก.ค.

เทียบรายปี ดัชนี PPI เพิ่มขึ้น 8.7% ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2564 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.8% จากระดับ 9.8% ในเดือนก.ค.

ด้านสมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองลดลง 1.2% ในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่จำนวนผู้ที่ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการรีไฟแนนซ์ลดลง 4% ในสัปดาห์ที่แล้ว และดิ่งลง 83% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สอดคล้องกับจำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นเพียง 0.2% ในสัปดาห์ที่แล้ว และลดลง 29% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นเป็นปัจจัยลบของตลาด โดยเงินกู้เฉลี่ยเพื่อการจำนองแบบคงที่ระยะเวลา 30 ปี สำหรับวงเงินกู้ไม่เกิน 647,200 ดอลลาร์ ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 6.01% จากระดับ 5.94% ในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ปี 2551