.ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 1.7% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาด
.นักลงทุนคาดเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟฟื้นต่อ และยังมีแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นก่อสร้าง 1 ล้านล.เหรียญ
.ตลาดมีแรวซื้อคึกคัก หลังบริษัทค้าปลีก-ตกแต่งบ้านเบอร์ต้นเผยผลประกอบการดีกว่าคาด
เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 36,258.15 จุด บวก
170.70 จุด หรือ +0.47% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 15,887.12 จุด เพิ่มขึ้น 33.27จุด ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,697.17 จุด เพิ่มขึ้น 14.37 จุด หรือ +0.31%
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 1.7% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.4% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนก.ย.ยอดค้าปลีกที่เพิ่มขึ้นในเดือนต.ค. ได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น และยอดขายรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน ขณะที่ยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร พุ่งขึ้น 1.6% ในเดือนต.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนก.ย.
ทั้งนีี้ยังมีปัจจัยที่สนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการค้าปลีกที่สดใส โดยบริษัทวอลมาร์ทและโฮม ดีโปท์ต่างเปิดเผยผลประกอบการที่ดีกว่าที่นักวิเคราะห์เช่นกัน ส่งผลให้มีแรงเข้าซื้อหุ้นทั้งสองตัวหนาแน่น รวมทั้งหุ้นในกลุ่่มที่ได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
บริษัทวอลมาร์ท ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยตัวเลขกำไรและรายได้ในไตรมาส 3 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยมีมีกำไร 1.45 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.40 ดอลลาร์/หุ้น และมีรายได้ 1.4053 แสนล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.3560 แสนล้านดอลลาร์
ด้านโฮม ดีโปท์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้านรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ เปิดเผยกำไรและรายได้ในไตรมาส 3 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้เช่นกัน โดยบริษัทมีกำไร 3.92 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.40 ดอลลาร์/หุ้น
และมีรายได้ 3.682 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 3.501 หมื่นล้านดอลลาร์
ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากการที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนลงนามในกฎหมายการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐาน วงเงินกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อวานนี้ โดยโครงการดังกล่าวจะรวมถึงการใช้จ่ายงบประมาณในการก่อสร้างถนน สะพาน ทางรถไฟ ปัจจัยพื้นฐานสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และโครงการอื่นๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการจ้างงานในสหรัฐ
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าการประชุมทางไกลระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ในวันนี้ บรรยากาศการเจรจาของผู้นำสหรัฐและจีนเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันท์มิตร โดยทั้งสองต่างยืนยันที่จะร่วมมือกันเพื่อให้เกิดสันติภาพและการพัฒนาทั่วโลก โดยได้ส่งสัญญาณผ่อนคลายความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีน และมีโอกาสที่ประเทศทั้งสองจะยุติการทำสงครามการค้าที่เกิดขึ้นในสมัยของปธน.โดนัลด์ ทรัมป์
