ดัชนีดาวโจนส์ปรับเพิ่มกว่า 90 จุด รอติดตามทิศทางน้ำมัน ดอกเบี้ย



.ตลาดหุ้นสหรัฐฯ อยู่ในช่วงชะลอการซื้อขาย ในสัปดาห์วันขอบคุณพระเจ้า

. นักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว

.ตลาดติดตามการประชุมกลุ่มโอเปก และชาติพันธมิตร คาดปรับลดกำลังการผลิตดันราคาเพิ่ม

เมื่อเวลาประมาณ 22.10 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ  35,045.08 จุด เพิ่มขึ้น
97.80 จุด หรือ 0.28%  ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ 4,528.47 จุด เพิ่มขึ้น 14.45 จุด หรือ 0.32%  ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส อยู่ที่ 14,197.11จุด เพิ่มขึ้น 71.63 จุด หรือ 0.51% 

นักวิเคราะห์คาดว่า การซื้อขายในตลาดหุ้นจะเป็นไปอย่างซบเซาในสัปดาห์นี้ โดยนักลงทุนจับตาการเปิดเผยรายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ประจำวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย. ในวันพรุ่งนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ

อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นยังได้รับปัจจัยบวกเพิ่มเติมในเดือนพ.ย.ปีนี้ ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว หลังจากที่ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 11 ครั้งนับตั้งแต่ที่เริ่มวัฏจักรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.2565 ส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 5.25%

โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือนธ.ค.2566, ม.ค.2567 และมี.ค.2567 ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเดือนพ.ค.2567

ด้านสัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นกว่า 2% ทะลุระดับ 77 ดอลลาร์ โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันเพื่อกระตุ้นราคาในตลาด

มีรายงานข่าวว่า การประชุมของกลุ่มโอเปกพลัสในวันที่ 26 พ.ย. จะมีการพิจารณาเกี่ยวกับการปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มเติม หลังจากที่ก่อนหน้านี้โอเปกพลัสมีข้อตกลงในการปรับลดกำลังการผลิตรวม 3.66 ล้านบาร์เรล/วันไปจนถึงสิ้นปี 2567

ทั้งนี้ ตลาดจะปิดทำการในวันพฤหัสบดีเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า และเปิดการซื้อขายเพียงครึ่งวันในวันศุกร์