

.อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวลง หนุนให้เกิดแรงซื้อสะสม
.นักลงทุนบางส่วนยังคงเทขายหุ้น กังวลธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)ยังไม่ยุติวงจรขึ้นดอกเบี้ย
.ตลาดให้น้ำหนักเฟดคงดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ธ.ค. แต่อาจจตรึงดอกเบี้ยระดับสูงนานกว่าที่คาด
เมื่อเวลาประมาณ 22.35 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 33,927.97 จุด เพิ่มขึ้น
36.03 จุด หรือ 0.11% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ 4,354.87 จุด เพิ่มขึ้น 7.52 จุด หรือ 0.17% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส อยู่ที่13,572.95 จุดเพิ่มขึ้น 51.50 จุด หรือ 0.38%
ตลาดหุ้นสหรัฐปรัยบตัวผันผวน มีแรงซื้อสลับกับแรงขาย ทำให้แกว่งตัวทั้งแดนลบ และแดนบวก ทั้งนี้ ตลาดได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวลง หลังดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 4.6% ในช่วงแรก ขานรับถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ส่งผลให้นักลงทุนกังวลการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด
อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงเทน้ำหนักในการคาดการณ์ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. นอกจากนี้ นักลงทุนคาดว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยต่อไป โดยไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.2567 ทำให้มีแรงซื้อกลับเข้่ามาในตลาดหุ้นสหรัฐฯ
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 85.4% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ย ในการประชุมวันที่ 12-13 ธ.ค. ขณะเดียวกัน นักลงทุนคาดว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือนม.ค.,มี.ค.และพ.ค.ของปี 2567 ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเดือนมิ.ย.