

- รวมซื้อปุ๋ยยูเรีย-ฟอสฟอรัส ซาอุฯแล้ว 4.25 แสนตัน
- มั่นใจไม่ขาดแคลนเกษตรกรมีใช้อย่างเพียงพอ
- ยอมรับราคาขายในประเทศยังแพงตามราคาปุ๋ยโลก
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือกับผู้บริหารบริษัท ซาบิค(SABIC) ผู้ผลิตปุ๋ยเคมีรายใหญ่ของซาอุดิอารระเบีย และของโลก เพื่อเจรจานำเข้าปุ๋ยให้มีปริมาณเพียงพอกับความต้องการใช้ในประเทศ ในระหว่างเดินทางเยือนซาอุฯอย่างเป็นทางการว่า ช่วงที่ผ่านมา ไทยได้เจรจานำเข้าปุ๋ยจากซาอุฯมาอย่างต่อเนื่อง และล่าสุด ได้ทำสัญญาซื้อขาย และนำเข้าแล้วจนถึงเดือนก.ค.65 รวมปริมาณ 323,000 ตันส่วนการพบกันครั้งนี้ ได้เจรจานำเข้าเพิ่มเติมอีก 102,000 รวมทั้งสิ้น 425,000 ตัน ซึ่งจะช่วยให้ไทยมีปริมาณปุ๋ยใช้อย่างเพียงพอ ไม่เกิดปัญหาขาดแคลน แต่เรื่องราคายังต้องเป็นไปตามกลไกของราคาปุ๋ยในตลาดโลก
“รัฐบาลซาอุฯอำนวยความสะดวกด้านการเจรจา เพื่อให้ไทยนำเข้าปุ๋ยให้ได้มากขึ้น ภายหลังจาก 2 ประเทศรื้อฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างกันอย่างเป็นทางการ โดยรัฐบาลซาอุฯไฟเขียวให้โอกาสไทยนำเข้ามากขึ้น จากเดิมนำเข้าจากบริษัท SABIC ผลิตยูเรียเป็นหลัก แต่ขณะนี้ ให้นำเข้าจากบริษัท มาเดน (MA’ADEN) ได้เพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งมาเดน ผลิตฟอสฟอรัสเป็นหลัก ส่วนโพแทสเซียม ไทยจะหาจากแหล่งอื่นเพิ่มเติม”
สำหรับราคาต้องปล่อยไปตามกลไกราคาปุ๋ยตลาดโลก โดยปุ๋ยทำจากก๊าซธรรมชาติ เมื่อราคาก๊าซในตลาดโลกยังสูงอยู่ ราคาปุ๋ยก็ต้องสูงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งไทยนำเข้าปุ๋ยเกือบ 100% ต้นทุนการนำเข้าปุ๋ยจึงสูงขึ้นตามราคาปุ๋ยในตลาดโลก และค่าขนส่งที่สูงขึ้นจากราคาน้ำมันตลาดโลก แต่กระทรวงพาณิชย์ได้จัดทำโครงสร้างราคาใหม่ กรมการค้าภายในเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งทำเสร็จแล้ว เพื่อให้ราคาขายในประเทศสอดคล้องกับต้นทุนการนำเข้าที่เป็นจริง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับเกษตรกรที่เป็นผู้ใช้ปลายทางและผู้นำเข้า
นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ช่วยลดภาระต้นทุนให้กับเกษตรกร ด้วยการจัดทำโครงการปุ๋ยราคาพิเศษขายให้กับเกษตรกร โดยอาศัยความร่วมมือกับสมาคมปุ๋ยแห่งประเทศไทย ให้ปรับลดราคาปุ๋ยลง จากราคาตลาดกระสอบละ 20-50 บาท รวมจำนวนที่นำมาขาย 4.5 ล้านกระสอบอีกทั้งรัฐบาลอยู่ระหว่างการเตรียมมาตรการชดเชยราคาปุ๋ยให้กับเกษตรกร ขณะนี้ รอการพิจารณาของฝ่ายต่างๆ ที่ดูแลด้านการเงินการคลังของประเทศอยู่