จับตา!อีกไม่เกิน30วันน้ำมันปาล์มขวดจ่อขึ้นราคา



  • หลังราคาผลปาล์มสด-น้ำมันปาล์มดิบทะยาน
  • ห้างลั่นต้องรอให้สต๊อกเก่าต้นทุนต่ำหมดก่อน
  • กรมการค้าภายในคุมเข้มห้ามฉวยขึ้นเกินจริง

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า มีความเป็นไปได้ว่า ในเร็วๆ นี้ หรือภายใน 15-30 วัน ราคาขายปลีกน้ำมันปาล์มบรรจุขวดเพื่อการบริโภค เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น โดยล่าสุด ราคาผลปาล์มสด ได้ปรับขึ้นมาอยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 6-7 บาท จากปี 62 ที่ราคาเฉลี่ยกก.ละ 2.50-3 บาท ส่วนราคาน้ำมันปาล์มดิบ (ซีพีโอ) ปรับขึ้นมาอยู่ที่กก.ละ เกิน 35 บาท จากปี 62 ที่เฉลี่ยกก.ละ 16-18 บาท ดังนั้น ราคาน้ำมันปาล์มขวดควรปรับขึ้นมาอยู่ที่ขวดละ 40-43 บาท จากปัจจุบันที่ห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีก ขายอยู่ที่ขวดละ 37-38 บาท แต่ต้องรอให้สต๊อกเก่าที่ต้นทุนน้ำมันปาล์มดิบที่กก.ละ 16-18 บาทหมดลงเสียก่อน

สำหรับสาเหตุที่ราคาน้ำมันปาล์มของไทยทั้งระบบปรับตัวสูงขึ้น เป็นเพราะมาตรการของรัฐบาลที่ส่งเสริมให้มีการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว (บี 10) ที่ผลิตจากน้ำมันปาล์มดิบ ในประเทศให้มากขึ้นนั้น ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก จนทำให้ความต้องการใช้ซีพีโอเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับ รัฐบาลเข้มงวดป้องกันการลักลอบนำเข้าซีพีโอจากต่างประเทศเข้ามาขายในประเทศ

นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ไม่ต้องการให้ผู้บริโภคตื่นตระหนกกับราคาน้ำมันปาล์มขวดที่อาจจะเพิ่มขึ้น เพราะหากจะมีการปรับขึ้นจริง ก็จะเป็นการปรับขึ้นให้สอดคล้องกับต้นทุนที่สูงขึ้น อยากให้ผู้บริโภคเข้าใจ และช่วยเหลือเกษตรกรด้วย เนื่องจากหลายปีที่ผ่านมา ชาวสวนปาล์มได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากการขายผลผลิตในราคาต่ำมาอย่างต่อเนื่อง และมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ยากลำบาก และหากราคาน้ำมันปาล์มขวดเพิ่มขึ้นจริง ผู้บริโภคยังสามารถบริโภคน้ำมันพืชอื่นแทนได้ อย่างไรก็ตาม กรมจะส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบสถานการณ์ขายน้ำมันปาล์มขวด เพื่อไม่ให้ผู้ค้าฉวยโอกาสเอาเปรียบผู้บริโภคจนได้รับความเดือดร้อน

”เมื่อราคาผลปาล์มสด และซีพีโอลดลง ราคาน้ำมันปาล์มขวดก็จะลดลงตาม และขอความร่วมมือผู้บริโภค อย่ากักตุนน้ำมันปาล์มขวด หรือซื้อมากจนเกินความจำเป็น อยากให้ซื้อเป็นปกติ เพราะถ้ามีการกักตุนมาก อาจทำให้การค้าน้ำมันปาล์มปั่นป่วนได้ และยืนยันว่า ถ้าพบ ผู้ค้ารายใดฉวยโอกาสเอาเปรียบผู้บริโภค จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กรณีขึ้นราคาขายสูงเกินจริง หรือทำให้สถานการณ์ราคาปั่นป่วน จะมีโทษปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ”