จับตาราคาทองคำ “วายแอลจี” คาดสถานการณ์ทองคำผันผวนระยะสั้น ประเมิน 1-2 ปี ยังเป็นช่วงขาขึ้น



  • แนะนักลงทุนซื้อใกล้ 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 28,000 บาท
  • ชี้จดทะเบียนวัคซีนโควิดรัสเซีย ถือเป็นข่าวส่งผลลบต่อราคาทองคำ
  • เนื่องจากช่วยเรียกความเชื่อมั่น เกี่ยวกับการฟื้นตัวเศรษฐกิจ

น.ส.ฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เปิดเผยว่า ราคาทองคำตลาดโลกและในประเทศ ปรับตัวลงมาจากแรงขายสินทรัพย์ปลอดภัยในวงกว้างทั้งทองคำ และพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ขณะเดียวกันเริ่มเห็นแรงขายจากกองทุน SPDR ซึ่งเป็น ETF ทองคำรายใหญ่ที่สุดของโลก เนื่องจากที่ผ่านมาราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมาก จึงเกิดการเทขายทำกำไรออกมาบางส่วน

ทั้งนี้มองว่าความผันผวนของราคาทองคำจะเกิดขึ้นแค่ช่วงสั้นเท่านั้น แต่ระยะยาว 1-2 ปี มองว่าราคาทองคำยังเป็นทิศทางขาขึ้น เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานที่สนับสนุนราคาทองคำยังไม่เปลี่ยน ทั้งเศรษฐกิจโลกติดลบ ส่งผลให้ธนาคารกลางทั่วโลกรวมทั้งธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายและมีผลให้อัตราดอกเบี้ยทรงตัวระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ อีกทั้งความขัดแย้งระหว่างจีน-สหรัฐฯ ยังคงมีอยู่ นอกจากนี้ ประเด็นภายในประเทศสหรัฐยังต้องจับตา เช่น การเลือกตั้งประธานาธิบดีเดือนพฤศจิกายนนี้ยังเป็นความไม่แน่นอนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ส่วนการจดทะเบียนวัคซีนโควิด-19 ของรัสเซียนั้น ถือเป็นข่าวที่ส่งผลลบต่อราคาทองคำ เนื่องจากช่วยเรียกความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจกลับเข้าสู่ตลาดบ้าง แต่ยังต้องรอดูประสิทธิภาพของวัคซีนระยะยาว ทั้งนี้ มองว่าตลาดทองคำรับรู้ข่าวนี้ไปแล้วและนักลงทุนน่าจะกลับเข้ามาซื้อทองคำหากปัจจัยที่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน แต่การปรับตัวขึ้นน่าจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่หวือหวาเช่นช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

ส่วนกองทุน SPDR หากนับจากต้นปีจนถึงปัจจุบันยังมีระดับการถือครองที่ค่อนข้างสูง โดยรวมปีนี้เข้าซื้อทองคำเพิ่มแล้วกว่า 350 ตัน แม้ช่วงนี้มีการเทขายออกมาบางส่วน แต่ภาพรวมยังมองว่าจะมีการเข้าซื้อต่อ

สำหรับคำแนะนำการลงทุนระยะสั้น ทะยอยสะสมแนวรับ 1,900 – 1,860 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และทยอยขายบางส่วนหากราคาไม่สามารถยืนเหนือแนวต้าน 1,950 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าราคาจะกลับไปทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่ 2,075 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ว่าจะใช้เวลาพอสมควรอาจจะประมาณ 3 สัปดาห์ หรือมากกว่า 1 เดือน ที่จะขึ้นไปทดสอบสูงสุดเดิม ส่วนราคาทองคำในประเทศ มองกรอบการเคลื่อนไหวแนวต้าน 28,750 บาท ส่วนแนวรับอยู่ที่ 28,000 และแนวรับถัดไปอยู่ที่ 27,200 บาท อย่างไรก็ตาม ราคาในประเทศจะต้องขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนแต่ละวัน