
วันที่ 28 ก.ค.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเวลา 13.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเรียกประชุม ผู้ว่าราชการจังหวัดสีแดงเข้ม 13 จังหวัด ผ่านระบบ zoom จากบ้านพัก ภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ร.1 ทม.รอ.) เพื่อหารือถึงแนวทางการรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือผู้ป่วย การตั้งโรงพยาบาลสนามต่างๆ รวมทั้งการสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชน
นอกจากนี้ ในวันที่ 30 ก.ค.นี้ นายกฯ เตรียมเรียกประชุม ศบค.ชุดใหญ่ เพื่อประเมินสถานการณ์โควิด-19 หลังประกาศยกระดับมาตรการคุมเข้มในพื้นที่สูงสุดและเข้มงวด 13 จังหวัดแล้ว จะต้องยกระดับเพิ่มเติมอย่างไร เนื่องจากตัวเลขผู้ติดเชื้อยังเพิ่มสูงต่อเนื่อง ซึ่งไม่เป็นไปตามที่ได้ประเมินไว้ว่า 2 สัปดาห์ ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 จะลดลง
รายงานข่าวยังแจ้งว่า ในการประชุมหารือการบริหารวัดซีนโควิด-19 ของสถานีกลางบางซื่อ เมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา ในช่วงหนึ่งของการประชุม พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. แสดงความไม่พอใจ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ในเรื่องการจัดสรรวัคซีนให้ กทม. และเห็นว่า จำนวนวัคซีนกระจายไปลงเพียงแค่ศูนย์ฉีดวัคซีนบางซื่ออย่างเดียว ทั้งที่ กทม.ก็มีศูนย์หลายจุด แต่กลับไม่มีวัคซีน ซึ่งระหว่างนี้ทั้งสองฝ่ายมีการถกเถียงกันอย่างรุนแรง จนทำให้นายกฯ ต้องพูดห้ามให้ทั้งสองฝ่ายใจเย็นๆ ค่อยๆ พูดคุยกัน จึงทำให้ พล.ต.อ.อัศวิน ที่อยู่ในอารมณ์โมโห ถึงกับเอาหน้าของตัวเองออกไปจากระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์แล้วใช้รูปภาพขึ้นแทน
ขณะที่ข้อเสนอเพื่อให้ที่ประชุมพิจารณามี 5 ข้อ คือ 1.หยุดการทำงาน เลื่อนนัดผู้จองคิวรับวัคซีนเข็มที่ 1 ที่นัดเดิมวันละ 5,500 คน ที่ศูนย์ฉีดวัคซีนบางซื่อออกไปก่อน เปิดอีกครั้งในวันที่ 30 ส.ค.นี้ เพื่อฉีดวัคซีนเข็มที่สอง 2.หยุดรับวอล์กอินแต่ให้บริการผู้ป่วยนัดเดิม 3.ปรับกลุ่มเป้าหมายอายุ การฉีดวัคซีน เช่น 75+ ปี กลุ่มโรค หญิงตั้งครรภ์ 4.ปรับภูมิลำเนาผู้ที่จะมารับบริการ กทม.และปริมณฑล และพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด
และ 5.ดำเนินการต่อเช่นเดิมอีก 4 วัน โดยเสริมมาตรการเว้นระยะห่างเต็มที่ โดยนายกฯ ตัดสินใจเลือกข้อเสนอที่ 5 ไม่เลือกปิดศูนย์ฉีดวัคซีนบางซื่อ อย่างไรก็ตาม นายกฯ ไม่มีข้อสรุปและไม่แนวทางในการแก้ปัญหาที่ชัดเจนกรณีที่ พล.ต.อ.อัศวิน ร้องเรียนเรื่องที่ กทม.ไม่ได้รับการจัดสรรวัคซีน ทั้งที่มีศูนย์บริการรองรับหลายจุด เพียงแค่มาตัดสินใจเรื่องการปิดหรือไม่ปิดศูนย์เท่านั้น










