ค้านฟิลิปปินส์จ่อขึ้นภาษีตอบโต้ไทยเฉียด2 หมื่นล้านบาท



  • หลังไทยส่อแพ้คดีประเมินภาษีนำเข้าบุหรี่
  • ยันฟิลิปปินส์ยังตอบโต้ทางการค้าไม่ได้
  • อย่าข้ามขั้นตอนต้องรองค์กรณ์อุทธรณ์ตักสินก่อน

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงกรณีที่ฟิลิปปินส์ได้ยื่นคำร้องต่อองค์การการค้าโลก (ดับบลิวทีโอ) เมื่อวันที่ 12 ก.พ.63 เพื่อขอใช้สิทธิตอบโต้ทางการค้าไทยในคดีพิพาทบุหรี่นำเข้า โดยฟิลิปปินส์จะขอระงับการให้สิทธิประโยชน์ หรือขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากไทย เป็นมูลค่ากว่า 17,800 ล้านบาทต่อปี เพราะเห็นว่าไทยยังไม่ปฏิบัติตามคำตัดสินของดับบลิวทีโอ ในกรณีพิพาทเรื่องการประเมินราคาศุลกากรกับสินค้าบุหรี่นำเข้าจากฟิลิปปินส์ ว่า ไทยได้ยื่นโต้แย้งการฟิลิปปินส์ต่อดับบลิวทีโอแล้ว โดยเห็นว่าฟิลิปปินส์ยังไม่สามารถใช้สิทธิตอบโต้ทางการค้าไทยได้ เพราะคดียังอยู่ในชั้นอุทธรณ์ และการพิจารณาคดียังไม่ถึงที่สุด แม้ฟิลิปปินส์จะอ้างว่าขณะนี้เกิดวิกฤติในดับบลิวทีโอ ที่ทำให้ไม่สามารถตั้งสมาขิกองค์กรอุทธรณ์ 6 ใน 7 คน แทนตำแหน่งที่ว่างลงได้ จึงต้องเดินหน้าขอใช้สิทธิตอบโต้ไทย โดยไม่รอผลการตัดสินชั้นอุทธรณ์

“หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย รวมถึงกระทรวงพาณิชย์ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของฟิลิปปินส์ในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และฝ่ายไทยได้ยื่นหนังสือถึงประธานองค์กรระงับข้อพิพาทของดับบลิวทีโอ เพื่อคัดค้านการขอใช้สิทธิตอบโต้ทางการค้าของฟิลิปปินส์แล้ว โดยเห็นว่าการดำเนินการของฟิลิปปินส์เป็นการข้ามขั้นตอนตามกระบวนการระงับข้อพิพาทของดับบลิวทีโอ และริดรอนสิทธิของไทยในกระบวนการระงับข้อพิพาท ซึ่งฟิลิปปินส์จะไม่สามารถใช้สิทธิตอบโต้ทางการค้าไทยได้ จนกว่ากรณีพิพาทจะถึงที่สุด”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีพิพาทเรื่องการประเมินราคาศุลกากรสินค้าบุหรี่นำเข้าระหว่างไทยกับฟิลิปปินส์เริ่มต้นตั้งแต่ปี 51 โดยฟิลิปปินส์ฟ้องว่า ไทยประเมินราคาบุหรี่นำเข้าจากฟิลิปปินส์ ไม่สอดคล้องกับความตกลงว่าด้วยการประเมินราคาศุลกากร ของดับบลิวทีโอ ซึ่งไทยได้ตั้งคณะทำงานเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว โดยมีกรมศุลกากรเป็นประธาน อย่างไรก็ตาม คณะผู้พิจารณาของดับบลิวทีโอ ได้ตัดสินในเบื้องต้นว่า การประเมินของไทยไม่สอดคล้องกับกฎกติกาดับบลิวทีโอจริง และให้ไทยดำเนินการให้สอดคล้อง แต่ไทยยังไม่ดำเนินการ และได้ยื่นอุทธรณ์ผลการตัดสินเบื้องต้นดังกล่าวต่อองค์กรอุทธรณ์ เมื่อเดือนก.ย.62

แต่เนื่องจาก ขณะนี้ องค์กรอุทธรณ์ มีสมาชิกเหลืออยู่เพียง 1 คนจากทั้งหมด 7 คน ทำให้การพิจารณาต้องหยุดชะงัก และยังไม่รู้ผลแพ้หรือชนะ ดังนั้น คำร้องขอใช้สิทธิตอบโต้ทางการค้าของฟิลิปปินส์จึงไม่ถูกต้อง และฝ่ายไทยจะคัดค้านและโต้แย้งเรื่องนี้อย่างเต็มที่ แต่หากองค์กรอุทธรณ์มีคำตัดสินว่าไทยแพ้ ฟิลิปปินส์จะมีสิทธิตอบโต้ทางการค้ากับไทยทันที ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปของการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าคิดเป็นมูลค่าเท่ากับคามเสียหายที่ฟิลิปปินส์ได้รับ แต่ฟิลิปปินส์ต้องพิสูจน์มูลค่าความเสียหายที่ในขั้นตอนอนุญาโตตุลาการอีกครั้ง และไทยมีสิทธิโต้แย้งมูลค่าความเสียหายดังกล่าวก่อนที่ฟิลิปปินส์จะใช้สิทธิขึ้นภาษีกับไทย