“คลัง” ยันเสียงเข้ม! เสถียรภาพเศรษฐกิจไทยแกร่ง ไร้ผลกระทบเหตุสหรัฐฯสั่งปิด 2 แบงก์ ขาดสภาพคล่อง

วันนี้ (13 มี.ค.66) นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวถึงกรณีที่ทางการสหรัฐฯ สั่งปิดกิจการ ของ ซิกเนเจอร์แบงก์ (Signature Bank) และธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ (Silicon Valley Bank) หรือ เอสวีบี ว่า เหตุที่เกิดเป็นปัญหาที่เกิดจากการขาดสภาพคล่อง ซึ่งถูกต้องแล้วที่ทางการสหรัฐฯ ต้องดำเนินการอย่างนี้ ซึ่งหลักการแก้ไขปัญหาที่ทำก็คล้ายกับของประเทศไทยที่ดำเนินการเมื่อครั้งปี 2540 คือ ไม่ทำให้เกิดภาระต่อประชาชน สำหรับภาพรวมของผลกระทบนั้น ต้องรอฟังจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพราะเป็นคนมอนิเตอร์ในเรื่องดังกล่าว

“ต้องรอฟังข้อมูลจากแบงก์ชาติด้วย เพราะเขาเป็นคนมอนิเตอร์เรื่องนี้ ซึ่งกรณีนี้เคยเกิดเมื่อวิกฤตฟองสบู่ของเรา แต่กรณีดังกล่าวมีขนาดที่ใหญ่กว่า เข้าใจว่า เป็นปัญหาที่เกิดจากการขาดสภาพคล่องของ 2 แบงก์ ซึ่งก็ถูกต้องแล้วที่ทางการดำเนินการอย่างนี้ แต่ว่าหลักการเขาคล้ายกับเรา คือไม่เป็นภาระต่อประชาชน” นายอาคม กล่าว

ทั้งนี้ เมื่อถามว่า กรณีปัญหาดังกล่าว ได้สร้างความกังวลว่าจะก่อให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจลามไปทั่วโลกหรือไม่ นายอาคม กล่าวว่า อย่าพูดเรื่องไม่น่ากังวล ซึ่งกรณีดังกล่าวต้องติดตามอย่างใกล้ชิด แต่ไม่ถึงขั้นต้องตั้งทีมร่วมกับ ธปท. เพราะแค่ ธปท.ดูแลก็เพียงพอแล้ว อย่างไรก็ดี เท่าที่ได้รับรายงานเกี่ยวกับผลกระทบต่อประเทศไทย ก็มีเรื่องของตลาดหุ้นที่ปรับลดลง 

“เรื่องของตลาดหุ้นที่ลดลงนั้น เป็นไปตาม sentiment ของนักลงทุนมากกว่า อย่างกรณีตลาดดาวโจนส์นั้น พอทางการประกาศชัดเจนเรื่องภาระต่างๆ ดัชนีหุ้นก็ปรับตัวดีขึ้น” นายอาคม กล่าว

ทั้งนี้ ทางแบงก์ชาติได้ยืนยันมาตลอดในเรื่องเสถียรภาพและระบบการเงินของไทยไม่ได้มีปัญหา และยังได้รับความน่าเชื่อถือ ขณะเดียวกัน ปัจจุบันไทยไม่ได้มีธุรกรรมกับ 2 ธนาคารนี้ เช่น กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ก็ไม่ได้ไปลงทุนในพอร์ตของ 2 แบงก์ดังกล่าว ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร และไม่ได้รับกระทบโดยตรงกับระบบการเงินของไทย