คลัง มั่นใจธปท.ดูแลค่าเงินบาทได้



  • ดันลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ
  • หวังสร้างเสถียรภาพทางการเงิน
  • ตั้งคณะกรรมการเสถียรภาพการเงินร่วมกัน

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า  เรื่องค่่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงมานั้น 30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ  สศค.คิดว่าเรื่องนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะสามารถดูแลค่าเงินให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมได้ ซึ่งที่ผ่านมาธปท.ได้ผ่อนปรนเกณฑ์หลายข้อเพื่อช่วยเหลือแล้ว 

“ส่วนปีนี้หากผลักดันให้มีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของประเทศไทยได้  คาดว่าจะทำให้ค่่าเงินมีเสถียรภาพมากขึ้น และยังส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจด้วย ส่วนเรื่องการค้าโลกนั้นมองว่าการค้าโลกปีนี้จะดีขึ้นจากปีก่อน ซึ่งจะส่งผลดีทำให้ภาคการส่งออกของไทยในปีนี้พลิกกลับมาดีขึ้น โดยมองว่าภาคการส่งออกจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจไทยปี 2563”

นอกจากนี้สศค.ได้จัดทำโครงสร้างด้านการเงิน 2 คณะเรียบร้อยแล้ว ประกอบด้วย คณะกรรมการที่ปรึกษานโยบายเสถียรภาพการเงิน และคณะกรรมการการเงินเพื่อการพัฒนา ซึ่งอยู่ระหว่างหารือกับนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เพื่อนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี(ครม)ต่อไป  ทั้งนี้คณะกรรมการที่ปรึกษาเสถียรภาพทางการเงินจะมีรมว.คลังและผู้ว่าธปท. เป็นประธานร่วม เพื่อทำหน้าที่ให้คำปรึกษาเรื่องเสถียรภาพการเงิน โดยมีกรรมการจากตลาดการเงิน ตลาดประกันภัย สหกรณ์ ตลาดหุ้น ร่วมด้วย 

“ในเรื่องค่าเงินบาทนั้นจะนำมาหารือในคณะกรรมการที่ปรึกษานโยบายเสถียรภาพการเงินด้วย เพื่อดูแลค่าเงินบาทของไทยให้มีเสถียรภาพในระยะยาว หลังจากนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะนำผลหารือไปดูว่าจะนำไปปฏิบัติได้หรือไม่อย่างไร โดยคณะกรรมการชุดนี้คงไม่สามารถไปสั่งการให้ดำเนินการใดๆ ได้ เพราะแต่ละหน่วยงานมีอำนาจและหน้าที่ตามกฎหมายของตัวเอง แต่จะเป็นเวทีสำหรับการแลกเปลี่ยแนวคิด ซึ่งช่วยทำให้การดำเนินนโยบายเงินการคลังเป็นไปในทิศทางเดียวกันมากขึ้น”

ส่วนคณะกรรมการการเงินเพื่อการพัฒนามีรมว.คลังเป็นประธาน โดยจะดึงภาคเอกชน เช่น สมาคมธนาคารไทย ผู้บริหารสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ และธนาคารพาณิชย์ เข้ามาร่วมเป็นกรรมการ เพื่อหารือถึงการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากว่าควรจะเดินหน้าอย่างไร