คลังเล็งเพิ่มทุนธ.ก.ส.พัฒนาฐานราก วงเงินไม่เกิน 5,000 ลบ.



  • รองรับนโยบายเศรษฐกิจระดับฐานรากระยะ 5 ปี
  • ตั้งคณะกรรมการดูแลเศรษฐกิจฐานรากโดยเฉพาะ
  • พร้อมพิจารณามาตรการดูแลเศรษฐกิจเพิ่มเติม

นายอุตตม สาวนายน รมว.คลังเปิดเผยว่า กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างพิจารณาแผนเพิ่มทุนให้แก่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)เพื่อให้ธนาคารสามารถมีทุนไว้รองรับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับฐานราก ซึ่งถือเป็นนโยบายที่รัฐบาลที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญอย่างมากในปีนี้ 

ทั้งนี้รัฐบาลพร้อมพิจารณามาตรการดูแลเศรษฐกิจตามความเหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา โดยในส่วนมาตรการชิมช้อปใช้นั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา อย่างไรก็ตามสถานการณ์การบริโภคในประเทศเริ่มกระเตื้องขึ้นแล้วดูได้จากยอดการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มที่ขยายตัวเป็นบวก ส่วนด้านการลงทุนในประเทศ หลังกฎหมายงบประมาณมีผลบังคับใช้ ทางรัฐบาลจะเร่งรัดการเบิกจ่ายเพื่อให้มีเม็ดเงินไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเริ่มตั้งแต่ไตรมาสแรกของปีนี้

“สถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนนั้น ขณะนี้ถือว่าผ่อนคลายลงไปมาก ดังนั้นคาดว่าบรรยากาศการค้าขายของโลกก็น่าจะดีขึ้นด้วย ส่วนค่าเงินบาทที่แข็งค่านั้น ทางธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)เป็นผู้ดูแล ขณะที่การตั้งคณะกรรมการดูแลเสถียรภาพการเงิน ก็ยังอยู่ระหว่างพิจารณา คาดจะแล้วเสร็จเร็วๆนี้”

ด้านนายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธ.ก.ส.กล่าวว่า การขอเงินเพิ่มทุนดังกล่าวนั้น ไม่ได้เป็นเพราะธ.ก.ส.มีปัญหาด้านสถานะการเงิน แต่จะนำมาไว้เพื่อรองรับนโยบายการขับเคลื่อน โมเดลพัฒนาเศรษฐกิจระดับฐานรากระยะ 5 ปี (2563-2568) โดยเม็ดเงินที่จะเพิ่มทุนนั้น  ไม่ได้นำมาจากงบประมาณ แต่นำมาจากกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (SFIF)  

“ปัจจุบันสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ได้นำส่งเงินสมทบเข้ากองทุนทุกปี  โดยในส่วนของธ.ก.ส.นั้น ได้นำส่งเงินสมทบเข้ากองทุนดังกล่าวปีละประมาณ 4,000 ล้านบาท ส่วนวัตถุประสงค์การใช้เงินกองทุนนั้น คือ ดูแลกรณีธนาคารของรัฐประสบปัญหา และรองรับการขยายงานของธนาคารของรัฐ  ส่วนเม็ดเงินที่ขอเพิ่มทุนจะอยู่ในระดับไม่เกิน 5,000 ล้านบาท”

ทั้งนี้ ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจระดับฐานรากนั้น จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลเศรษฐกิจระดับฐานรากเพื่อทำหน้าที่กำหนดนโยบาย ซึ่งรายละเอียดของคณะกรรมการจะมาจากส่วนใดบ้าง ทางกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการพิจารณา โดยการแต่งตั้งคณะกรรมการและการขออนุมัติแผนเพิ่มทุนดังกล่าวทางคณะรัฐมนตรีจะเป็นผู้อนุมัติ คาดว่ากระทรวงการคลังจะเสนอเข้าสู่การพิจารณาเร็วที่สุดในสัปดาห์หน้า