

- ขายหมดทุกงวดก็จะมีกำไรไม่ต่ำกว่าเดือนละ 40,000 บาท
- จุดขายแถว “สาทร” ขายผ่านแอปได้สูงสุด 1,654 ใบ
- ซื้อขายผ่านแอปฯ เท่านั้นไม่มีการซื้อเงินสด
วันที่ 21 มิถุนายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล นำโดยนายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลพันตำรวจเอก อัครพล บุณโยปัษฎัมภ์ กรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล พร้อมด้วยพันตำรวจเอก บุญส่ง จันทรีศรี ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนพบปะจุดจำหน่ายสลาก ในเขตบางกอกใหญ่ เขตบางพลัด และเขตดุสิตตามโครงการ GLO Official Sellersให้ประชาชนสามารถหาซื้อสลากได้ตามราคา 80 บาท โดยทำการซื้อ-ขายผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และ “ถุงเงิน” ผ่าน 44 แห่งในเขตกรุงเทพฯ และนนทบุรี
นายธนวรรธน์ฯ กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า โครงการโครงการ GLO Official Sellers นี้จะเปิดเฉพาะผู้ค้าสลากรายเดิมที่มีอยู่ระบบสามารถร่วมโครงการได้ โดยยังไม่ได้เปิดให้พ่อแม่ค้ารายใหม่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งหลังจากเปิดขายไปตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย.64 ร้านค้าส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมพอใจกับโครงการนี้ เพราะได้รับความนิยมจากนักเสี่ยงโชคจำนวนมาก และหากขายหมดทุกงวดก็จะมีกำไรไม่ต่ำกว่าเดือนละ 40,000 บาท
ส่วนปัญหาที่ผู้ขายสลากอยากให้แก้ไข คือ การอนุญาตให้ขายหวยมากกว่า 5 ใบต่อครั้ง เพราะบางครั้งลูกค้าไม่มีโทรศัพท์มือถืออยากซื้อเงินสด ซึ่งในส่วนซื้อขายเงินสดนั้นสำนักงานสลากยังไม่อนุญาต โดยให้ซื้อขายผ่านแอปฯ เท่านั้น นอกจากนี้สำนักงานสลากเตรียมพิจารณาให้ซื้อขายผ่านแอปฯ อื่นได้อีกด้วย

“สำนักงานสลากจะดูผลลัพธ์จากการเดินหน้าโครงการนี้ก่อน 3 เดือน(มิ.ย-ส.ค.)ว่าผู้ซื้อมีมากน้อยแค่ไหน ซึ่งหากประสบความสำเร็จก็เตรียมขยายโครงการนี้ไปยังจังหวัดต่างๆ โดยจะให้ครอบคลุมทุกอำเภอ ทุกจังหวัด ไม่ต่ำกว่า 7,000 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงเปิดให้ตัวแทนจำหน่ายและผู้ค้ารายย่อยเข้าร่วมด้วย และหวังว่าการดำเนินโครงการนี้จะทำให้สลากในตลาดราคาลดลง โดยเฉพาะคนเดินเร่ขายหวยที่ต้องปรับตัวขายสลากราคาถูกขึ้น”
ทั้งนี้ตั้งแต่เปิดขายสลาก 80 บาท เริ่มวันที่ 17 มิ.ย.-19 มิ.ย.2564 จุดจำหน่าย 10 อันดับสูงสุดที่จำหน่ายผ่านแอปฯ ถุงเงิน คือ 1.สาทร 1,654 ใบ 2.บางบอน 1,493 ใบ 3.บางแค 1,140 ใบ 4.หนองจอก 845 ใบ 5.บางซื่อ 843 ใบ 6.จอมทอง 834 ใบ 7.สวนหลวง 753 ใบ 8.บางกอกใหญ่ 753ใบ 9.หนองเขม 693 ใบ และ10.บางใหญ่ 587 ใบ
สำหรับตัวแทนจำหน่ายสลากร่วมเครือข่าย GLO Official Sellers จะได้รับการเพิ่มสลาก จำนวน 20 เล่ม รวมสลากที่ได้รับไปจำหน่ายต่องวด จำนวน 25 เล่ม เพื่อสนับสนุนการจำหน่ายสลาก ณ จุดจำหน่ายโดยการจ่ายเงินในการซื้อ-ขายสลาก จะเป็นการจ่ายเงินผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และ“ถุงเงิน” เพื่อเป็นไปตามวิถีชีวิตใหม่ หรือ นิวนอร์มอล(New Normal) ไร้การสัมผัส

ทั้งนี้ตัวแทนจำหน่ายจะได้รับสิ่งของที่มีตราสัญลักษณ์เครือข่าย GLO Official Sellers เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ว่าเป็นจุดจำหน่ายให้กับประชาชน ประกอบด้วย แผงจำหน่ายสลาก ป้ายประชาสัมพันธ์ (Roll up)เสื้อกั๊กและป้ายอะคริลิคประชาสัมพันธ์ นอกจากนี้บนใบสลากที่จำหน่ายในโครงการฯ จะมีเลขรหัสประทับตราของแต่ละจุดจำหน่ายอย่างชัดเจน ซึ่งระบุรหัสของจังหวัด รหัสเขต/อำเภอ ในจังหวัดนั้น และรหัสจุดจำหน่าย GLO Official Sellers เช่น เลขรหัส 01-01-001 หมายถึงจุดจำหน่าย “กรุงเทพมหานคร เขตคลองเตย ร้านที่ 1” เป็นต้น ซึ่งจะทำให้ประชาชนรู้ข้อมูลที่มาของสลากทันที

ส่วนข้อกังวลของตัวแทนจำหน่ายที่เกรงว่าผู้ซื้อจะนำสลากไปจำหน่ายต่อเกินราคานั้น นายธนวรรธน์ กล่าวว่า สลากทุกใบที่จำหน่ายตามโครงการฯ จะถูกประทับตรารหัสจากตัวแทนจำหน่าย จึงขอเตือนประชาชนหากพบสลากที่ประทับตรารหัสจำหน่ายนอกจุดจำหน่าย หมายความว่าสลากดังกล่าวถูกนำมาขายต่ออย่างแน่นอน นอกจากนี้จุดจำหน่ายยังได้ติดตั้งกล้องวงจรปิด ตามเงื่อนไขของโครงการฯ เพื่อตรวจสอบการซื้อ-ขาย ว่าเป็นไปตามมาตรการหรือไม่ อีกทั้งได้วางระบบการซื้อ-ขายสลากผ่านแอปในโครงการฯ ที่สามารถบันทึกข้อมูลไว้ในระบบ เพื่อนำไปแสดงความเป็นเจ้าของสลากของผู้ซื้อ ไม่ว่าจะเป็นกรณีสลากหายหรือชำรุด รวมถึงจะเป็นหลักฐานสำคัญของตัวแทนจำหน่าย หากมีการนำสลากไปขายต่ออีกด้วย
“ประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูลจุดจำหน่ายในเขตพื้นที่ต่างๆ ได้ ผ่านทางเว็บไซต์สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล www.glo.or.th โดยจากนี้ไปสำนักงานฯ จะมีการติดตามประเมินผลการจำหน่ายสลากตามโครงการฯ นี้ เป็นประจำทุกงวด ซึ่งหากพบว่ามีปัญหาและอุปสรรค รวมทั้งการทุจริต จะเร่งตรวจสอบและแก้ไขทันที ”
ส่วนความคิดเห็นของตัวแทนจำหน่ายสลาก ได้แก่ นางสุขพร ชลิศราพงศ์ (เขตบางกอกใหญ่) นางสาวอรพินท์ ศักดิ์วิศวชัย (เขตบางพลัด) และนายสิริชัย อนุจารวัฒน์ (เขตดุสิต) พบว่าทั้ง 3 ราย เป็นตัวแทนจำหน่ายที่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของสำนักงานฯ มาโดยตลอด มีความพร้อมและยินดีเข้าร่วมโครงการฯ และมีความมั่นใจในการจำหน่ายสลาก ซึ่งถือว่าได้รับความสนใจจากลูกค้า เนื่องจากการซื้อ-ขาย ผ่านแอปมีความสะดวกสบาย ลดความเสี่ยงในช่วงโควิด-19 และสามารถรู้ยอดที่ชัดเจนป้องกันปัญหาทอนเงินเกิน นอกจากนี้รูปแบบแผงสลากของโครงการฯ ยังดึงดูดลูกค้า สิ่งที่อยากฝาก คือ ขอให้ออกมาตรการลงโทษผู้นำสลากไปขายต่อเกินราคาอย่างเคร่งครัด เพื่อความเป็นธรรมกับตัวแทนจำหน่ายที่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของสำนักงานฯ