- ปีนี้ไทยเสียโอกาสยาว 5 เดือน
- ชง ครม.ของบ 500ล้านบาทฟื้นฟู ปรับปรุง พัฒนา
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการท่องเที่ยวแห่งชาติ(ท.ท.ช.) แทนนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ว่า ท.ท.ช.ได้ทำการประเมินผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ จะส่งผลกระทบต่อรายได้ของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะสูญเสียไปสูงถึง 300,000 ล้านบาท ในกรณีที่ทางการจีนสามารถคุมการระบาดได้ภายในเดือนมี.ค.นี้ แต่กว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติของบรรยากาศท่องเที่ยว คนกล้าออกมาเดินทางเหมือนเดิม คงปลายเดือนก.ค.2563 เท่ากับปีนี้เสียโอกาสไป 5 เดือน เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้เป้าที่เคยตั้งเอาไว้ไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไปแต่ก็จะพยายามวิ่งไปให้ถึงให้ได้
ดังนั้น เมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมากระทรวงท่องเที่ยวฯได้เสนอที่ประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ(ครม.เศรษฐกิจ) ขออรุมัติวงเงิน 500 ล้านบาทจากงบกลางเพื่อกรณีฉุกเฉินและจำเป็น เพื่อมาช่วยพัฒนา ปรับปรุงและฟื้นฟูการท่องเที่ยวของปีนี้ ซึ่งการของบก้อนดังกล่าวไม่มีใครคัดค้าน แต่ต้องเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีหรือครม.ชุดใหญ่อนุมัติ ในวันที่ 4 ก.พ.นี้ก่อน จากนั้นกระทรวงฯจะจัดทำแผนการใช้เงินและมาตรการฟื้นฟูท่องเที่ยวเสนอรายละเอียดให้สำนักงบประมาณพิจารณาอีกครั้ง
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ล่าสุดรายงานสถิติระบุว่าระหว่างวันที่ 24 ม.ค.-1ก.พ. นักท่องเที่ยวจีนลดลงกว่า 232,114 คน หรือลดลงราว 60.59% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนมาไทย 383,112 คน ปัจจุบันเส้นกราฟวิ่งดิ่งลง แต่กว่าจะถึงก้นของตัวยู และกว่าจะเด้งขึ้นมา ซึ่งหากยุติเดือนมี.ค.กว่าจะฟื้นตัวก็อีกหลายเดือน ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวจากชาติอื่นยังไม่มีการรายงานจากกระทรวงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยว่าลดลงและมีจำนวนนักท่องเที่ยวบางตลาดเพิ่มมากขึ้น อาทิ นักท่องเที่ยวจากตลาดยุโรป เชื่อว่าน่าจะเกิดจากการที่นักท่องเที่ยวเลือกเบนเข็มจากการท่องเที่ยวในประเทศจีนมาประเทศไทยแทน
“ปัจจุบันกระทรวงฯ อยู่ระหว่างการหารือภายในกระทรวงฯ เพื่อหาแนวทางที่จะชดเชยรายได้ที่หายไปจากสถานการณ์นี้ผ่านการประชาสัมพันธ์ให้คนไทยออกเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ ดึงดูดนักท่องเที่ยวชาติอาเซียนโดยเฉพาะกลุ่มประเทศ CLMV ซึ่งมีภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตดีมากท่องเที่ยวในประเทศไทย พร้อมทั้งดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ยังไม่ได้มีเป้าหมายชัดเจนให้เข้ามาเที่ยวในประเทศไทยแทน และเตรียมที่จะหารือเพื่อนำนักท่องเที่ยวอินเดียเข้ามาเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มเติมอีก พร้อมทั้งหาแนวทางในการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวอินเดียเพิ่มเติม เพื่อให้นักท่องเที่ยวทุกประเทศได้รับการอำนวยความสะดวกอย่างเท่าเทียมกันต่อไป
ผู้สื่อข่าว รายงานเพิ่มเติมว่า ทางกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงท่องเที่ยวฯได้จัดทำประมาณการผลกระทบของมาตรการที่จีนประกาศให้บริษัทนำเที่ยวในจีนหยุดดำเนินกิจกรรมท่องเที่ยวระหว่างประเทศ ห้ามจำหน่ายแพ็กเกจท่องเที่ยวที่จัดการเดินทางด้วยตัวเอง (เอฟไอที) ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้าไทย ซึ่งกระทรวงท่องเที่ยวฯได้ตั้งสมมติฐานไว้ 4 ช่วง คือ กรณีที่ 1 จีนห้ามเดินทาง ม.ค.-มี.ค.2563 จะส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวลด 1.47-1.98 ล้านคน รายได้จะหายได้ 67,000-91,000 ล้านบาท
กรณีที่ 2 จีนห้ามเดินทาง ม.ค.-เม.ย. 2563 จะส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวลด 2.16-2.83 ล้านคน รายได้จะหายได้ 99,000-130,000 ล้านบาท กรณีที่ 3 จีนห้ามเดินทาง ม.ค.-มิ.ย.2563 จะส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลง 3.23-4.37 ล้านคน รายได้จะหายได้ 148,000 -201,000ล้านบาท และ กรณีที่ 4 จีนห้ามเดินทาง ม.ค.-ก.ย.2563 จะส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลง 5.21-7.07 ล้านคน รายได้จะหายได้ 240,000-325,000 ล้านบาท