

- เผยมีผู้ต้องขังได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำทั่วประเทศ 30,000 ราย
- “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” จะได้รับการพักโทษหลังปีใหม่
- “บุญทรง เตริยาภิรมย์” ได้รับการลดโทษตามสัดส่วน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่พระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. 2563 เพื่อให้โอกาสแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ กลับประพฤติตนเป็นพลเมืองดี อันจะเป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติสืบไปนั้น
ล่าสุด วันนี้ (4 ธ.ค.63) ทางกรมราชทัณฑ์ ได้เปิดเผยว่า การพระราชทานอภัยโทษครั้งนี้ จะมีผู้ต้องขังได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำทั่วประเทศ 30,000 ราย ตามมาตรา 6 และยังมีนักโทษเด็ดขาด ที่เข้าหลักเกณฑ์ได้ลดวันต้องโทษตามพระราชกฤษฎีกา ฉบับดังกล่าวอีกกว่า 200,000 ราย
ทั้งนี้สำหรับกลุ่มผู้ต้องขังบิ๊กเนม ซึ่งเป็นนักการเมือง ส่วนใหญ่ไม่อยู่ในเกณฑ์ได้รับการพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวออกจากเรือนจำ เนื่องจากกระทำความผิดตามบัญชีแนบท้าย แต่จะได้รับการลดวันต้องโทษตามสัดส่วน เพื่อเข้าสู่กระบวนการพักการลงโทษปล่อยตัวก่อนครบกำหนดโทษ อันได้แก่
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ซึ่งถูกศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 2 ปี 8 เดือน ในคดีชุมนุมปิดล้อมบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ ของพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ เมื่อปี 2550 คาดจะได้รับการพักโทษหลังปีใหม่ 2564 แต่หลังได้รับการปล่อยตัวแล้ว นายณัฐวัฒิยังคงมีคดีอื่นที่อยู่ระหว่างการสอบสวนของตำรวจกองปราบ ซึ่งอาจถูกจะอายัดตัว และขออำนาจศาลฝากขังได้
นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ถูกศาลพิพากษาจำคุก 6 ปี 24 เดือน เมื่อวันที่ 21 ม.ค. ที่ผ่านมา จะได้การลดโทษตามสัดส่วน โดยก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนส.ค. นายสรยุทธได้รับการลดโทษมาแล้ว คาดว่า เดือนมี.ค. 2564 จะครบกำหนดเวลาที่ถูกจำคุก และได้รับการปล่อยตัว
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ ถูกศาลฎีกาฯ พิพากษาจำคุก 48 ปี ในคดีจีทูจี ได้รับการลดโทษตามสัดส่วน
นอกจากนี้ ยังมีชื่อของ นายสำเริง ประจำเรือ และ นายสิงห์ทอง บัวชุม ผู้ต้องหาคดีล้มประชุมอาเซียน ที่จะได้รับการพระราชทานอภัยโทษด้วย โดยผู้ที่ได้รับการปล่อยตัว จะต้องเข้าอบรมใน โครงการโคกหนองนาโมเดล เป็นวลา 15 วัน โดยคาดว่าจะเริ่มอบรมรุ่นแรกวันที่ 12 ธ.ค.นี้
อย่างไรก็ตาม นับถึงวันที่ 1 ธ.ค.2563 ที่ผ่านมา กรมราชทัณฑ์มีผู้ต้องขังเด็ดขาด ที่ควบคุมอยู่ประมาณรวม 247,557 ราย จากผู้ต้องขังทั้งหมด 344,161 ราย