- เปิดทางชุดราตรีขอเบิกได้
- พักเมืองค่าครองชีพสูง แหล่งท่องเที่ยว
- เบิกเพิ่มอีก 25% ไปก่อนกลับหลังให้อำนาจปลัดเซ็น
น.ส.วารี แว่นแก้ว รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมบัญชีกลาง ได้ปรับปรุงระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2565 เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2560 โดยตัดตำแหน่งของข้าราชการฝ่ายตุลาการ ฝ่ายอัยการ และปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้เกิดความเหมาะสมและชัดเจนในทางปฏิบัติมากยิ่งขึ้น ในหลายประเด็น โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.65
ทั้งนี้เพื่อให้การทำงานมีความคล่องตัว และสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันมากขึ้น โดยสาระสำคัญที่มีการแก้ไข อาทิ ให้มีการเพิ่มประเภทเครื่องแต่งกายราตรีสโมสร สำหรับผู้ดินทางไปราชการประจำในต่างประเทศ เนื่องจากระยะหลังมีข้าราชการที่เป็นผู้หญิงไปประจำต่างประเทศมากขึ้น จึงได้เพิ่มประเภทเครื่องแต่งกายให้สอดคล้องกับกาลเทศะ แต่ไม่ได้มีการเพิ่มวงเงิน หรือจำนวนชุดที่เบิกจ่ายได้
น.ส.วารี กล่าวต่อว่า กรณีผู้เดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราวมีความจำเป็นต้องเดินทางก่อนล่วงหน้าก่อนเริ่มปฏิบัติราชการ และเดินทางกลับหลังเสร็จสิ้นการปฏิบัติราชการ เกินกว่าระยะเวลาที่กำหนดไว้ในบัญชีหมายเลข 1 ให้ขออนุมัติระยะเวลาจากปลัดกระทรวงเจ้าสังกัด หรือผู้บังคับบัญชาที่มีอำนาจเช่นเดียวกับปลัดกระทรวง สำหรับกรณีเดินทางไปราชการในท้องที่ที่มีค่าครองชีพสูงหรือเป็นแหล่งท่องเที่ยวให้เบิกจ่ายค่าเช่าที่พักในลักษณะจ่ายจริง สูงกว่าอัตราที่กำหนดเพิ่มขึ้นอีกไม่เกิน 25% ขณะเดียวกันยังแก้ไขหลักการเบิกค่าใช้จ่ายสมทบ ประเด็นเกี่ยวกับการเบิกค่าบัตรโดยสารเครื่องบินตามสิทธิของผู้เดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราว ด้วย
ด้านนางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวถึงแผนเร่งรัดการเบิกจ่ายว่า ขณะนี้ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 66 อยู่ระหว่างการพิจารณาของรัฐสภา ดังนั้น เพื่อให้หน่วยงานของรัฐสามารถดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างเป็นไปด้วยความรวดเร็ว สามารถก่อหนี้ผูกพันและเบิกจ่ายเงินได้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ 66 และสอดคล้องกับนโยบายเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินของรัฐบาล กรมฯ จึงได้แจ้งเวียนหนังสือกรมบัญชีกลาง ด่วนที่สุด ซักซ้อมความเข้าใจให้หน่วยงานของรัฐถือปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการเตรียมการจัดซื้อจัดจ้าง ตามระเบียบกระทรวงการคลังไว้แล้ว