กระทรวงต่างประเทศแจ้งมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 6คนรวมเป็น 18 คน

นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ รายงานสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล

กระทรวงต่างประเทศแจ้งมีผู้เสียชีวิตเหตุรุนแรงในอิสราเอลเพิ่มอีก 6คนรวมเป็น 18 คน  ข่าวดี! อิสราเอลช่วยออกมาอยู่พื้นที่ปลอดภัยได้อีกหลายร้อยคนมีคนไทยรวมอยู่ด้วย

  • ตัวเลขผู้แสดงความประสงค์จะกลับไทยเพิ่มขึ้นเรื่อย ล่าสุดมีจำนวน 3,226 คน
  • ทูตไทยประจำเทลอาวีฟขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองคนที่ถูกจับตัวไปปลอดภัย

วันนี้(10ตุลาคม 2566 )เวลา 11.00น. นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ รายงานสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอลว่า ได้รับรายงานมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 6 ราย รวมเป็น 18 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บ 9 ราย ผู้ถูกจับกุม 11 ราย ข่าวดีคือกองทัพอิสราเอลร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันอพยพพลเรือนรวมทั้งคนไทยออกไปยังพื้นที่ปลอดภัยสูงสุดไม่เกิน 4 กิโลเมตรจากฉนวนกาซ่า จำนวนหลายร้อยคน  สถานเอกอัครราชทูตจากเทลอาวีฟ ได้แจ้งรายงานที่อยู่ของคนไทยให้อิสราเอลรับทราบ เพื่อช่วยเหลือออกมา มีความพยายามอาศัยเทคโนโลยีติดตามคนที่สูญหายหรือติดต่อไม่ได้ ร่วมกับองค์กรเอกชนและตำรวจ ใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าเพื่อตรวจสอบ เป็นบุคคลใดๆ สถานทูตอิสราเอลส่งรายชื่อผู้ที่ญาติติดต่อไม่ได้ให้ตำรวจและองค์กรเอกชนที่เข้ามาช่วยเหลือ

ส่วนกรณีฝ่ายฮามาสบอกว่าถ้าอิสราเอลโจมตีจะสังหารผู้ถูกจับตัวเป็นประกันนั้น คาดว่าไม่น่าจะทำร้ายคนต่างชาติ ไม่น่าจะขยายความขัดแย้งหลายด้าน

ทั้งนี้จะมีคนไทยจะเดินทางกลับ 15 คน กับสายการบินอิสราเอลแอร์ไลน์ เที่ยวบิน LY083 ออกจากอิสราเอลเวลา 21.45 น. ถึงประเทศไทยวันที่ 12 ตุลาคม 2566 เวลา 10.35 น. ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

นายกาญจนา กล่าวว่า นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.การต่างประเทศ ได้โทรศัพท์หารือกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอิสราเอลเมื่อค่ำวานนี้(9ต.ค.) โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอิสราเอลได้แสดงความเสียใจ และให้คำมั่นที่จะพยายามดูแลคนไทยในอิสราเอลให้ดีที่สุด จะดูแลคนชาติอื่นให้เหมือนคนอิสราเอลเอง และนายปานปรีย์ ได้ย้ำว่ารัฐบาลไทยให้ความสำคัญสูงสุดกับคนไทยในอิสราเอล ขอให้อิสราเอลช่วยเหลือคนไทยให้ปลอดภัย และเร่งช่วยเหลือคนไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกัน

สำหรับตัวเลขผู้ที่แสดงความประสงค์จะกลับไทย ล่าสุดมีจำนวน 3,226 คน สำหรับการอพยพผู้คนออกจากอิสราเอลของประเทศต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นประเทศยุโรป ใช้เครื่องบินทหาร เครื่องบินพาณิชย และเครื่องบินแห่งชาติของตัวเอง ได้แก่ประเทศโปแลนด์ คาดว่าจะอพยพเสร็จวันที่  15 ตุลาคม 2566 กรีซ โรมาเนีย ฮังการี เซอร์เบีย บัลกาเรีย อัลบาเนีย มาซีโดเนีย โคซาโว ส่วนใหญ่เป็นประเทศในยุโรป เนื่องจากอยู่ใกล้พื้นที่ อยู่ระหว่างดำเนินการคือ บราซิล ชิลี เริ่มดำเนินการโยกย้าย อพยพ ทุกประเทศอยากให้คนของตนรีบออกมา และทำการบินของท่าอากาศยานยังมีอยู่

นางสาวพรรณภา จันทรารมย์  เอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ กล่าวว่า  ไม่ได้นิ่งนอนใจ กำลังระดมสรรพกำลังติดต่อคนไทยทุกคน แต่อยู่ในภาวะสงคราม โดยแบ่งพื้นที่ฉนวนกาซ่า เป็นสีแดง ส้ม เหลือง อิสราเอลจัดลำดับความสำคัญเข้าไปช่วยทีละโซน พอได้ทราบว่าบางคนรอการช่วยเหลืออยู่ ได้ประสานอิสราเอล คนไทยติดอยู่ให้ทหารเข้าไป ทุกเรื่องต้องใช้เวลา ต้องเข้าใจข้อจำกัด การจัดลำดับตามโซน สำหรับคนไทย 15 คน ออกจากอิสราเอลวันที่ 11 นี้แน่นอน  มีทั้งสถานทูตส่งรถไปรับ นายจ้างพามาส่ง มีรถเหมามาก่อนขึ้นเครื่อง และได้ตั้งเคาท์เตอร์ที่สนามบินออกเอกสารเดินทางก่อนขึ้นเครื่อง สำหรับผู้ที่ไม่มีเอกสาร ยืนยัน 15 คนแรกได้กลับแน่นอน

 ในขณะที่วันที่ 18 ตุลาคม จะมีอีก 80 ที่นั่งที่จะกลับไทย โดยสถานทูตเปิดให้คนไทยลงทะเบียน ให้เจ้าหน้าที่โทรกลับทุกคนที่ลงทะเบียน สถานะล่าสุดอยู่ที่ไหนอย่างไร การเดินทางไม่ได้ทำได้ง่ายนัก ใกล้ฉนวนกาซ่าไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าไปเลย จะพยายามช่วยพี่น้องคนไทยให้มากที่สุด หาเที่ยวบินพาณิชย์ให้ได้มากที่สุด พาคนไทยกลับบ้าน

สำหรับการนำผู้เสียชีวิตออกจากที่เกิดเหตนั้น ทางการอิสราเอล ขอให้ความสำคัญกับผู้มีชีวิตอยู่ เอาออกจากพื้นที่ก่อน เพราะมีกำลังพลจำกัด ผู้เสียชีวิตยังไม่สามารถระบุตัวตนได้ชัดเจน จะต้องมีการออกเอกสารที่เกี่ยวข้องบันทึกเสียชีวิตจากสงคราม อิสราเอลจะให้ความช่วยเหลือ ซึ่งขณะนี้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 900 คน ต้องพิสูจน์อัตลักษณ์ ไม่สามารถนำกลับได้เร็ว เพื่อผลประโยชน์ของญาติผู้เสียชีวิต เขาพยายามอย่างเต็มที่ แต่ขอจัดลำดับความสำคัญให้กับผู้รอดชีวิตก่อน ส่วนคนที่ถูกจับไปเป็นตัวประกัน ไม่สามารถตรวจสอบได้เลยว่าอยู่ที่จุดใดบ้าง ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองคนที่ถูกจับตัวไปปลอดภัย อิสราเอลว่าจะพยายามช่วยเหลือเต็มที่

ทางการติดตาม The Journalist Club