“บิ๊กโจ๊ก” ลั่น! ไม่เอาคืน เปิดข้อมูลมาตายกันหมด เป็นรองผบ.ตร.ฝ่ายสืบสวนสอบสวน มีข้อมูลทั้งหมด แต่ขอรักษาองค์กรเอาไว้อยู่
- เจ้าพ่อเว็บพนันทั้งหมดไม่มีใครรู้จักผมสักคน
- แล้วไม่มีใครจ่ายเงินให้ผมมีแต่เขากลัวผมหมด
เปิดคำชี้แจงคำต่อคำ “บิ๊กโจ๊ก -พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” รองผบตร.
วันนี้(27ก.ย.) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ “บิ๊กโจ๊ก” ให้สัมภาษณ์รายการ “เจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์” เมื่อผู้ดำเนินรายการ “แมวสาว” ถามว่า ทุกคนจับตาอยู่ แสดงว่าส่วนปฏิบัติการที่โดนมา “บิ๊กโจ๊ก”จะเอาคืนไหม เขาบอกว่าถ้าเอาคืนเลือดคงนอง สตช.แน่นอน จะประกาศตรงนี้ว่าอย่างไรดี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า “ผมไม่เอาคืนหรอกครับ แต่ข้อมูลที่ผมมีอยู่มากล่ะกัน ผมเปิดเมื่อไรก็ตายกันหมด”
เมื่อ”หมาแก่” ถามต่อว่า ข้อมูลผมมีมาก หมายถึงข้อมูลอะไร ข้อมูลของใคร ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับใคร พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า “ผมขอไม่บอกได้ไหมครับ เพราะผมก็ไม่คิดจะไปหักขาแขนใคร ถามว่าเรื่องนี้ผมไม่เอาคืน แต่ข้อมูลผมมีเยอะ จากเรื่องนี้นะครับ ผมทำอย่างตรงไปตรงมาทุกคดี เพียงแต่ว่ามันมีเส้นทางการเงินไปพัวพันกับคนโน้นคนนี้หลายคน ก็คือเรื่องเว็บพนัน ที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน มันไม่ใช่ไอ้แบบขี้ไก่ แบบของผม 3 ล้านกว่า ซึ่งผมไม่เคยไปยุ่งกับเว็บพนัน ผมต้องเรียนว่าเจ้าพ่อเว็บพนันทั้งหมดไม่มีใครรู้จักผมสักคน แล้วไม่มีใครจ่ายเงินให้ผมมีแต่เขากลัวผมหมด”
เมื่อถามต่อว่าเงื่อนไขไหนถึงจะเปิดข้อมูล พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า “วันนี้ยังไม่ขอตอบได้ไหมครับ ผมเป็นรองผบ.ตร.ฝ่ายสืบสวนสอบสวน ผมมีข้อมูลทั้งหมด ไอ้แบบที่ทำแบบนี้ ผมก็ทำได้ แต่ผมยังรักษาองค์กรอยู่ แต่ไอ้สิ่งที่ทำกับผมแบบนี้ก็ไปดูแล้วกันมันถูกต้องหรือเปล่า”
คำต่อคำข้อชี้แจงของ “บิ๊กโจ๊ก”
ขณะเดียวกันวานนี้(26ก.ย.) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” หรือ “บิ๊กโจ๊ก” ให้สัมภาษณ์ชี้แจงกรณีลูกน้องเชื่อมโยงเว็บพนัน ที่สโมสรตำรวจ ดังนี้
ผู้สื่อข่าว : มีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ : ครับ เจ้าหน้าที่ทั้ง 6 นายเพิ่งได้รับการประกันตัว ตอนนี้ยังมาไม่ถึง อยู่ระหว่างขั้นตอน ก็น่าจะมาถึงประมาณ 2-3 ทุ่ม ก็จะได้พูดคุยกัน ประเด็นเรื่องที่ผมรับปากว่า เข้าไปเกี่ยวข้องอย่างไร พรุ่งนี้คงตอบได้ คงต้องพูดคุยกันกับพวกเขาก่อน ผมเรียนอย่างนี้แล้วกัน วันนี้เงินทังหมดที่มาใช้จ่ายถ้าเราไปดูเงิน ไปถามชุดสอบสวนก็ได้ เงินทั้งหมดที่เอาไปใช้จ่าย มันเป็นเงินของผม และถ้าคำนวณเงินดูดีๆ เงินของผมจะมากกว่าเว็บพนันเยอะ
- กำลังจะรับมอบเงินมรดกพ่อตาเป็นเงินกว่าพันล้าน
วันนี้ต้องพูดเรื่องจริงกันว่าผมไม่ได้ใช้เงินจากเว็บพนัน เอางี้นะครับ ผมมีเงินราชการลับที่ผบ.มอบ แต่เราต้องเข้าใจว่ามันไม่พอ และสื่อก็เห็นว่าผมทำงานขนาดนี้ ทำงานทั้งประเทศ มันก็ต้องใช้เงินนอกเหนือจากนั้น ก็คือเงินส่วนตัว มันไม่มีใครเอาเงินส่วนตัวมาทำงานหรอก แล้วผมถามคำเดียวว่า แล้วสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเอาเงินที่ไหนมาให้ผมทำงาน หรือมีความบ้าแบบผมที่เอาเงินส่วนตัวมาทำงาน ก็เพราะผม ไม่ได้ส่งลูกไปเรียนอังกฤษ เรียนเมืองนอก ไปเรียนต่างประเทศ ไปเรียนดีๆ
นี่กำลังจะรับมอบเงินของพ่อตาที่แม่ยายผมเป็นผู้จัดการมรดกเนี่ยก็เกือบพันล้านแล้ว แต่ประเด็นหลักที่ลูกน้องเอามาจากเว็บพนันออนไลน์ 10 บาท แต่เงินของผมเนี่ย มัน 2,000 บาท มันคนละเรื่องกันเลย เพราะฉะนั้นอันนี้ไปตอบที่ไหนก็ตอบได้และผมรายงานป.ป.ช.ไปทั้งหมด เดี๋ยวเรื่องลูกน้องก็ต้องไปคุยกันว่าคุณติดพนัน เล่นพนันเว็บหรือเปล่า และการที่คุณไปใช้บัญชีม้าเนี่ย ใช้เพราะอะไร คนที่ใช้บัญชีม้าได้ก็แสดงว่าก็ต้องใช้สำหรับเล่นการพนัน ถ้าเงินบริสุทธิ์เนี่ยไม่ต้องใช้บัญชีม้า แต่อันนี้ก็ไม่ได้ว่าลูกน้อง ลูกน้องจะไปทำอะไร ผมก็ต้องถาม
- เผยที่ถูกค้นบ้านเป็นของญาติผู้ใหญ่ “เฮียแต๋ม”
ส่วนเรื่องบ้าน บ้านมี 5 หลัง ซึ่งคุณแต๋ม เป็นเศรษฐีอยู่อุดร ก็เป็นญาติผู้ใหญ่ผม เมื่อ 10 ปีที่แล้ว คุณแต๋มก็เคยไปให้การที่ป.ป.ช.ว่าเป็นญาติผู้ใหญ่ผม ผมก็มีบันทึกอยู่ป.ป.ช. วันนี้เขามีบ้านอยู่กรุงเทพ เขาก็ให้ผมอยู่ที่บ้าน ผมก็จ่ายค่าเช่าให้เขาเป็นความเกรงใจ ผมก็พักอยู่ 2 หลัง ส่วนอีก 3 หลังไม่มีใครอยู่ ผมก็จ่ายแค่ 2 หลัง อีก 3 หลังไม่มีใครก็เอาไว้เก็บของ ไม่มีใครอยู่ แต่ให้ลูกน้องไปพักบ้าง แต่ไม่ได้ไปนอน มันก็มีแค่นี้
ผมก็บอกเฮียแต๋มแล้วว่า วันนี้สื่อโทรไปหาเขาเยอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้(27ก.ย.)เขาจะเปิดตัวเลย ให้สัมภาษณ์คงจะเป็นช่วงบ่ายๆ พร้อมทนายเขา
ผู้สื่อข่าว : มีประเด็นว่าไม่ได้เป็นญาติกัน เพิ่มมารู้จักกันในปี 2554-2555
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ : ผมว่าเขาไม่ได้ตอบหรอก คนน่าจะไปพูด เดี๋ยวต้องฟังเขาตอบ
ผู้สื่อข่าว: รู้จักกันมาปีไหน
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ : โอว ผมจำไม่ได้ มันน่าจะ 30 กว่าปีแล้วนะ
ผู้สื่อข่าว: เริ่มต้นจากการรู้จักกันยังไง
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ : ก็รู้จักกันตั้งแต่ผมยังเป็นสารวัตรอยู่ มันนานมาก ก็เหมือนเป็นญาติผู้ใหญ่ของเราคนหนึ่ง เคารพกันมาก ลูกเต้าเขาก็เป็นทหาร จบนายร้อยจ.ป.ร. เราก็มีความผูกพันกัน ไอ้เรื่องแค่เนี้ย คือเฮียแต๋มเขามีธุรกิจจากการที่ไปให้การที่ป.ป.ช. วันนี้กำลังจะถามว่าเฮียแต๋มเขาทำเว็บพนันหรือเปล่า ก็เฮียแต๋มเขาบริสุทธิ์ เขามีแคชโฟลว์(กระแสเงินสด)ปีละ 700-800 ล้านบาท เพราะฉะนั้นการที่ผมเช่าบ้านเขาก็ไม่ใช่เรื่องผิด เพราะเขาไม่ได้ทำเว็บพนัน อันนี้มันไม่มีปัญหา การเช่าบ้านเขาผมก็ทำรายงานป.ป.ช. มีสัญญาเช่าเรียบร้อย ค่าน้ำค่าไฟผมก็จ่ายเอง แต่บังเอิญไอ้ลูกน้องผมมันไปใช้บัญชีม้าจนกระทั่งเงินไปพันกันหมด
- แจงใช้เงินส่วนตัวทำงานเดือนละเป็นล้าน
วันนี้ก็ต้องแยกให้ได้ว่าเงินผมมันคือส่วนไหน แต่วันนี้ถ้าพูดถึงคนทำธุรกิจ เงินของผมมันมากกว่าเว็บพนันก็แสดงว่า ผมเนี่ยเอาเงินมาทำงานมากกว่าเว็บพนัน อันนี้เข้าใจนะ เพราะปกติเว็บพนันต้องมีเป็น 100 ล้าน แต่นี่มีที่ไหนจ่ายแค่ค่าโทรศัพท์ 1,700 บาท ค่าโทรศัพท์ 1,500 บาท ค่ารักษาแม่ 2.8 ล้าน มันไม่มีหรอก รวมแล้ว 3 ล้านกว่า ก็เป็นเงินของผม แล้ววันนี้เอาลูกน้องผมไปสอบให้หมด ลูกน้องผมก็ต้องบอกว่าผมเป็นคนให้ตังค์ เพราะว่าถ้าผมไม่ให้เงินไปทำงาน ผมบอกเลยนะ เดือนๆหนึ่งเนี่ยผมจ่ายเงินส่วนตัวมากแล้วกันในการทำงาน ใครอยู่ใกล้ผมก็จะรู้และตกใจ แต่ถามว่าถ้าผมไม่ทำขนาดนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเอาเงินที่ไหนมาให้ผม
แม้แต่ผบ.ก็รู้ว่าผมใช้เงินมากขนาดไหนในการทำงาน
ผู้สื่อข่าว : ลูกน้องกังวลหรือไม่สบายใจไหม
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ : ลูกน้องผมเนี่ยใจไม่ท้อถอย ทำงานผ่านอะไรมาเยอะแล้ว วันนี้เราต้องไปแก้ข้อกล่าวหาที่เขาตั้ง ข้อกล่าวหามีอะไรบ้าง ชี้แจงให้ได้ว่าเงินตรงนี้คือเงินอะไร ส่วนใครที่เล่นเว็บพนันก็ต้องรับผิดชอบตัวเอง
ผู้สื่อข่าว: จำนวนเงินที่ให้กับลูกน้อง เขาเอาไปจ่ายอะไรบ้าง
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ : ผมให้พ.ต.ท.คริษฐ์ ซึ่งอยู่กับผมก็ให้เงินเขาไปจ่าย
ผู้สื่อข่าว : เท่าไหร่
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ : มันเยอะน่ะครับ แต่ละเดือนผมก็เป็นล้านนะครับ เพราะเงินราชการลับก็ 6 แสนแล้ว แล้วผมจ่ายอีก มันไม่มีใครทำแบบผมแล้ว แต่ถามว่า ถ้าผมไม่ทำอย่างนี้ แล้วลูกน้องผมจะออกไปทำงานอย่างไร เวลาผมไปทำงาน แต่ละคดี ไปกินนอนกัน สื่อหลายคนก็จะเห็น คดีแอมป์ไซยาไนด์ สื่อไปตั้งกล้องอยู่ตลอด 3 เดือนที่นครปฐม มีค่าอาหาร 3 มื้อ ของว่าง 2 มื้อ ค่าโรงแรมอีก ผมไม่ได้ใช้เงินหลวงแม้แต่บาทเดียว ผมก็ใช้เงินส่วนนี้หมด งานออกมาดีไหมก็ออกมาดี เอาคนผิดมาลงโทษได้
- อดทนต่อความเจ็บใจ ไม่หวั่นไหวต่อความยากลำบาก
- แล้วสุดท้ายคือ เราไม่ได้มักมากในลาภผล
ผู้สื่อข่าว: ท้อใจไหมทำขนาดนี้
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ : ไม่น้อยใจ ผมโดนมาเยอะแล้ว เรามันถูกหล่อหลอมให้อดทนต่อความเจ็บใจ ไม่หวั่นไหวต่อความยากลำบาก แล้วสุดท้ายคือ เราไม่ได้มักมากในลาภผล
ผู้สื่อข่าว: ท่านได้คุยกับพ.ต.ท.คริษฐ์ ไหม
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ : ยังไม่ได้คุยยังไม่ออกมา
ผู้สื่อข่าว: เงินโอนไปที่แม่มาจากบัญชีม้า
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ : เงินที่โอนไปแม่ผมก็เป็นเงินของผม ส่วนใครจะไปทำเว็บแล้วเอาเงินไปหมุนก็ต้องชี้แจงให้ได้ เอางี้หลักการผมชี้แจงได้ว่าเงิน ผมมาอย่างไร เอาจากที่ไหนมาทำงาน สรุปผมชี้แจงที่มาเงินของผมได้ เงินผมไม่ได้มาจากเว็บพนัน แต่ว่าลูกน้องผม พอผมให้ตังค์ไปแล้วลูกน้องผมไปเปิดบัญชีม้า แล้วเอาไปพันบัญชีม้า แล้วเอาไปพันกับเว็บพนันก็เป็นเรื่องที่ลูกน้องผมต้องตอบ แต่ว่าอันนี้เดี๋ยวต้องถาม ผมก็ไม่รู้มาก่อน แต่ก็เพิ่งรู้จากลูกน้องเมื่อกี๊ ไม่อยากพูดให้เสียหายมากไปกว่านี้ เอางี้ดีกว่า น่าจะมีความเสียหายเรื่องการเงินน่ะนะ แต่ว่าอย่าซ้ำเติม เมื่อเรารู้ต้องมาแยกส่วนไหนเป็นของผม ส่วนไหนเขาเอาไปทำอะไร ส่วนของผมเป็นเงินถูกต้องก็ต้องตอบให้ได้ว่า ที่มาของเงินจากไหน
- บัญชีม้าพัวพัน “มินนี่” เป็นเรื่องส่วนตัวลูกน้อง
ผมก็มั่นใจว่า พนักงานสอบสวนก็รู้แล้วว่า วันนี้ใครที่โอนเงินเข้าไป เช่น ผู้การนำเกียรติ ผู้กำกับคนนั้นคนนี้ ถ้าไปสอบใครทุกคนก็จะบอกว่านายโอนมาให้ทำงาน ก็ผมบอกแล้วว่าเป็นเงินของผมก็ต้องมาสอบผม ส่วนพ.ต.อ.ภาคภูมิ กับพ.ต.ท.คริษฐ์ ที่มีบัญชีพันกับมินนี่ ก็ต้องไปตอบเองว่าไปพันได้อย่างไร คุณไปเล่นเว็บหรือเปล่า เป็นเรื่องส่วนตัวเขา แต่ไม่ใช่ว่าจะไปเกี่ยวข้องทั้งหมด
พ.ต.ท.คริษฐ์ รับเงินไปแล้วมันช็อต แต่ผมจะไม่บอกว่าลูกน้องผมไปติดเว็บพนันอะไรแบบนั้น เอาเป็นว่าผมรู้แล้วจุดอ่อนมันอยู่ตรงไหน
ผู้สื่อข่าว: วันนี้ยังมั่นใจไหมว่าลูกน้องทั้ง 8 คนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บพนัน
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์: คนที่ไม่ใช้บัญชีม้าอันนี้ชัดเจน แต่เงินที่มีบัญชีม้าไปแตะกับมินนี่เช่นพ.ต.ท.คริษฐ์ รองหนึ่ง อันนี้เขาต้องตอบ
ลองไปดูแล้วกัน ผมเนี่ยใช้เงินทำงานเดือนละล้านกว่า ถามว่าทำไมต้องใช้ล้านกว่า มันพอไหมล่ะ แต่ละคดีก็ 3-4 แสนแล้ว ก็เห็นอยู่ แล้วถามว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ผมแบบนี้หรือเปล่า เมื่อไม่มีผมก็ต้องทำ เพราะประชาชนคาดหวังว่า งานนี้โจ๊กออกมันต้องทำได้ แล้วผมก็ทำได้ทุกงาน
ถามว่าไม่มีเงินแล้วจะไปทำไง ผมถามสื่อซิว่า ถ้าไม่เอาเงินมาใช้ ออกไปตามผู้ต้องหา สตาร์ทรถ ก็ต้องใช้ค่าน้ำมันรถแล้ว ค่ากิน ค่าอยู่ ค่าโรงแรม แต่ว่า ไม่เป็นไร ผมชี้แจงได้ว่าเงินผมได้มาถูกต้อง
- การได้เป็นผบ.ตร.หรือไม่ ไม่ได้เป็นตัวชี้วัด
- ตัวชี้วัดก็คือ ขณะที่อยู่ทำหน้าที่ดีหรือยัง
ผู้สื่อข่าว: มินนี่ ได้รับการประกันตัว เพราะรู้จักกับตำรวจชั้นผู้ใหญ่หรือเปล่า
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ : คือ มินนี่เนี่ยผมไม่รู้จักเขาเป็นการส่วนตัว และไม่เคยโทรศัพท์ไปหาเขา เจอเขาวันนั้นในวันงานก็ไม่รู้ว่ามินนี่คือคนนี้ ก็เจอครั้งเดียว ผมเป็นคนเปิดตัว ใครมาพบได้หมด เหมือนชาวบ้านที่มาเพราะเราเป็นคนของประชาชน ที่ผ่านมาก็โดนไปหมด ถ่ายรูปกับทั้งจีนดำ จีนเทา เพราะเราให้คนเข้ามาหาง่าย แต่ไม่ได้หมายความว่ารู้จักกันครั้งเดียวแล้วไปทำเว็บกับเขา
อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ จะไม่ได้เข้าประชุม ก.ตร.แต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ เนื่องจากเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ผบ.ตร.คนต่อไป ต้องมีคุณสมบัติ ต้องสร้างศรัทธาให้ประชาชน และดูแลขวัญกำลังใจตำรวจ
อย่างไรก็ตามไม่ได้คาดหวังการได้เป็นผบ.ตร. การได้เป็นผบ.ตร.หรือไม่ ไม่ได้เป็นตัวชี้วัด ตัวชี้วัดก็คือ ขณะที่อยู่ทำหน้าที่ดีหรือยัง ผมก็พยายามเรียกศรัทธามาคืนตำรวจ 2 แสนกว่าคน แต่ก็แน่นอน ผมเป็นคนดุ ทำงานเชิงรุก ลูกน้องก็ต้องกระจายอำนาจ ดูแลขวัญและกำลังใจของตำรวจ แค่นั้นเองเราทำง่ายๆ ถ้าเราเป็น ทำให้สถานการณ์บ้านเมืองดีขึ้นหรือไม่ และประชาชนเข้าถึงความเป็นธรรมได้ไหม สำนวนโรงพักหายไหม
- ทุกอย่างฟ้ามีตาเดี๋ยวก็เห็นเอง
ผู้สื่อข่าว: เงินไม่พอทำคดีต่างๆ เพราะระบบงบประมาณของตำรวจมีปัญหาหรือไม่
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ : ไม่ได้มีปัญหา แต่เงินมันน้อย ผมยกตัวอย่างง่ายๆ เวลาไปทำคดี ไปกินไปนอน ที่สื่อไปกับผม ยกตัวอย่าง คดีกำนันนก สื่อก็ไปกับผม เราไปอยู่กันมา 2 อาทิตย์ ลูกน้องผมก็เปิดวอร์รูมที่นครปฐม เราไปอยู่มา 2 อาทิตย์ ค่าอาหารเช้า กลางวัน เย็น มีของว่าง ถามว่ามันเบิกได้ แต่มันจะเบิกได้เมื่อไหร่ อีก 5 เดือนหรือไม่ และจะเบิกได้ครบหรือไม่ เงินมันน้อย ถ้าเราอยากให้งานสำเร็จเราก็ต้องเสียสละ ต้องใส่ไปเต็มที่ ลูกน้องก็ขับเคลื่อนเร็ว แต่ถ้าเช้าชามเย็นชามก็ไม่เป็นไร แต่ผมอาจจะคิดของผมเอง อยากให้งานสำเร็จ ปิดคดีได้ถือว่าสำเร็จ
ถามว่าทำไมสื่อชอบมาสัมภาษณ์ผม ก็เพราะการรายงานให้สื่อทราบนอกจากการรายงานผู้บังคับบัญชาก็คือการรายงานให้ประชาชนรับทราบไปด้วย วันนี้โลกสมัยใหม่เราต้องเปิดให้หมด ต้องไม่เอาเปรียบประชาชน
“ผมว่าทุกอย่างฟ้ามีตา เดี๋ยวก็เห็นเอง เพราะผมก็ผ่านอะไรมาเยอะแล้ว”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(27ก.ย.) เวลา 14.00 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 10/2566 ณ ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถนนพระรามที่ 1 เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ซึ่งมีวาระสำคัญคือ การพิจารณาแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่
