“เศรษฐา”ตามงานทุกเม็ด ความร่วมมือไทยจีน เร่งรัดเปิดวีซ่าฟรีแบบถาวร เตรียมส่งบีโอไอ คมนาคม อธิบายรายละเอียด แลนด์บริดจ์ก่อนหาจุดร่วมลงทุน
- ตามเรื่องส่งออกโค จีนโอเค แต่ให้WHOรับรองไม่มีโรคปากเท้าเปื่อย
- ตามเรื่องส่งออกข้าวใกล้ได้ตามข้อตกลง 1ล้านตัน พร้อมหาทางออกเรือดำน้ำ
- ตามเรื่องสร้างสะพานมิตรภาพ 2 ซึ่งจะเชื่อมส่งออกจากหนองคายไปลาวต่อไปจีน
วันนี้ (3 พฤศจิกายน 2566) นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อหารือเพิ่มโอกาสกระชับความสัมพันธ์ โดยเอกอัครราชทูตจีน กล่าวว่า ชาวจีนประทับใจนายกรัฐมนตรีที่ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์กับจีน และชื่นชมท่าทีที่แข็งขันของนายกรัฐมนตรี ซึ่งรัฐบาลจีนให้ความสำคัญกับผลการหารือของนายกรัฐมนตรีไทยกับบุคคลสำคัญของจีน โดยทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับผลของการหารือได้ทำงานเพื่อความคืบหน้าเป็นไปตามผลการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีกับ นาย สี จิ้นผิง ประธานาธิบดี นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน และนายจ้าว เล่อจี้ ประธานสภาประชาชนแห่งชาติสาธารณรัฐประชาชนจีน
ทั้งสองฝ่ายได้หารือในประเด็นที่ได้มีการหารือในระหว่างการเดินทางเยือนจีนของนายกรัฐมนตรีเพื่อให้เกิดความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม ดังนี้
การเพิ่มโควตานำเข้าข้าวจากไทย ฝ่ายจีนแจ้งว่าหลังการหารือจีนจะซื้อข้าวจากไทย 1 ล้านตัน จนถึงขณะนี้มีการซื้อข้าวไทยแล้ว 8 แสนตัน ซึ่งจะดำเนินการให้ครบตามจำนวน
การส่งออกโคมีชีวิต และเนื้อสัตว์จากไทยไปจีน นายกรัฐมนตรีแจ้งว่าไทยจะยกระดับสินค้าไทยให้เป็นไปตามที่ฝ่ายจีนต้องการและขอให้ฝ่ายให้ฝ่ายจีนพิจารณาการนำเข้าด้วย ซึ่งเอกอัครราชทูตฯ รับจะสนับสนุน โดยที่รัฐบาลจีนได้มอบหมายให้หน่วยงานด้านการศุลกากรของจีนรับผิดชอบดูแลด้วยแล้ว
การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานเพื่อตั้งด่านตรวจสอบสินค้าผลไม้ ที่ท่าเรือกวนเหล่ย เอกอัครราชทูตฯ เข้าใจดีว่าเป็นช่องทางที่สินค้าของไทยส่งไปขายที่จีนได้เลยโดยไม่ต้องผ่านประเทศที่ 3 ซึ่งยินดีที่จะให้การพิจารณาสนับสนุน
มาตรการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาของทั้งสองประเทศ เอกอัครราชทูตจีนแจ้งว่าฝ่ายจีนไม่ขัดข้องในเรื่องนี้ โดยทั้งสองฝ่ายหวังที่จะบรรลุข้อตกลงระหว่างกันโดยเร็วที่สุด
โครงการ Landbridge นายกรัฐมนตรีขอบคุณความสนใจที่รัฐบาลจีนมีต่อโครงการนี้ของไทย ซึ่งเอกอัครราชทูตฯ กล่าวว่าผู้นำจีนให้ความสำคัญ และเอาใจใส่โครงการนี้ ได้สั่งการให้คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติติดตามโอกาสที่จะร่วมมือกับโครงการนี้ของไทย
โครงการความร่วมมือรถไฟไทย-จีน โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่าการเดินทางเยือน สปป. ลาว ของนายกรัฐมนตรี (30 ตุลาคม 2566) ทำให้เห็นชัดถึงความสำคัญของการเร่งรัดการก่อสร้างสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ (หนองคาย – เวียงจันทน์) เพื่อรองรับการขยายตัวของการขนส่งข้ามแดนทางรางระหว่างไทย – ลาว – จีน ซึ่งเอกอัครราชทูตฯ เข้าใจเจตนาดีของไทย และรับที่จะประสานการทำงานเพื่อเร่งรัดโครงการต่อไป
ความตกลงจัดซื้อเรือดำน้ำ ทั้งสองฝ่ายได้หารือร่วมกันต่อประเด็นความตกลงจัดซื้อเรือดำน้ำด้วยความร่วมมือที่ดี โดยจะร่วมกันหาทางออกต่อไป
ขณะที่นายเศรษฐา ได้ลงข้อความใน X ระบุว่า ช่วงเย็นผมได้เรียนเชิญท่านทูตจีนมาพบหลังจากผมไปประชุม Belt and Road Forum (BRF) ครั้งที่ 3 ที่กรุงปักกิ่งมา เพื่อติดตามเรื่องการเกษตร การเพิ่มปริมาณการซื้อข้าวจากไทย โดยฝ่ายจีนรับที่จะเร่งรัดให้ครับ ส่วนการส่งออกโคและเนื้อวัวจากไทย ฝ่ายจีนรับว่า จะพิจารณาให้ส่งโคไปขายได้โดยไม่ต้องผ่านด่านกักกันที่ลาวก่อน แต่ประเทศไทยต้องผ่านการรับรองจาก WHO ก่อนว่า โคไม่เป็นโรคปากเปื่อยเท้าเปื่อย ซึ่งตรงนี้เราต้องมาบริหารจัดการภายในของเราครับ
ผมยังได้ขอให้เร่งรัดเจรจาหารือวีซ่าฟรีแบบถาวรสำหรับประชาชนสองประเทศให้สามารถไปมาหาสู่กันได้สะดวก ซึ่งท่านทูตก็เห็นพ้องว่า สามารถเร่งรัดการเจรจาได้ครับ
นอกจากนี้ ยังมีเรื่อง Land Bridge ซึ่งผมนำเรื่องนี้ไปเสนอให้กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ท่านให้ความสนใจอย่างมากครับ ท่านทูตจีนอยากจะได้รับข้อมูลและรายละเอียดตรงนี้เพิ่มเติม ผมจึงบอกไปว่า ประมาณ 1-2 อาทิตย์ จะให้กระทรวงคมนาคมกับ BOI ไปอธิบายให้ฟังอย่างละเอียดครับ แล้วค่อยกลับมาพูดคุยว่า มีส่วนไหนที่จีนจะร่วมพัฒนาหรือลงทุนบ้าง
ต่อมาคือ เรื่องการสร้างสะพานมิตรภาพ 2 ซึ่งจะเชื่อมระหว่างหนองคายไปลาว ซึ่งเป็นสะพานรถไฟที่จะรองรับการส่งออกของสินค้าที่จะไปจากประเทศไทยข้ามไปลาวแล้วก็ต่อไปถึงเมืองจีนได้ ผมพยายามพูดคุยกับทางจีนเพื่อเดินหน้าเร่งดำเนินการก่อสร้างจุดนี้ให้สำเร็จลุล่วงโดยเร็วที่สุดครับ
