“เศรษฐา”ปลื้ม! กอ.รมน.-กองทัพ นำที่ดิน 9,276 ไร่ มาให้ประชาชนทำกิน

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานประชุมชี้แจงมอบนโยบายแนวทางการปฏิบัติงาน ของกอ.รมน.

“เศรษฐา”ปลื้ม! กอ.รมน.-กองทัพ ขอช่วยประชาชนยามเกิดภัยพิบัติ ร่วมกันพัฒนาประเทศสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจปากท้องประชาชน

  • สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ และการสร้างความเข้มแข็งด้านสังคมของประเทศ
  • ช่วยแก้ปัญหาฝุ่นควันพิษ ปัญหามลพิษทางอากาศเพื่อความยั่งยืน

“เรื่องนี้ผมต้องขอชื่นชมทางกองทัพที่ได้ดำเนิน นโยบายการนำที่ดิน ภายใต้การดูแลของกองทัพมาให้ประชาชนใช้ประโยชน์เป็นรูปธรรมผ่านโครงการหนองวัวซอโมเดล ซึ่งมีพื้นที่รวม 9,276 ไร่ ใช้เวลาเพียง 1 เดือน โดยกำหนดส่งมอบถึงมือประชาชน ในวันที่ 25 ธันวาคมสิ้นปีนี้ถือว่าเป็นของขวัญปีใหม่ที่ล้ำค่าต่อพี่น้องประชาชนจากกองทัพไทย”

วันนี้ (31 ตุลาคม 2566) ที่กองอำนวยการร่วมรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานประชุมชี้แจงมอบนโยบายแนวทางการปฏิบัติงาน ของกอ.รมน. โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัจจุบันบริบทด้านความมั่นคงมีความสลับซับซ้อน มีการเปลี่ยนแปลงหลากหลายรูปแบบและส่งผลกระทบในวงกว้างอย่างรวดเร็ว การแก้ไขปัญหาต้องมีการบูรณาการงานของส่วนราชการ พลเรือน ตำรวจ ทหาร

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานประชุมชี้แจงมอบนโยบายแนวทางการปฏิบัติงาน ของกอ.รมน.

นอกเหนือจากการพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแล้ว ประเทศไทยวันนี้ กำลังเผชิญวิกฤตความท้าทายที่สำคัญ ทั้งในเชิงเศรษฐกิจ สังคม การเมืองภายในประเทศ และต่างประเทศ รัฐบาลชุดนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะสร้างความพร้อม และวางรากฐานเพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับคนไทยทุกคนทั้งในปัจจุบันและในอนาคตอย่างมั่นคง และในวันนี้ต้องสร้างความมั่นคงที่เกี่ยวข้องกับชีวิต และเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานประชุมชี้แจงมอบนโยบายแนวทางการปฏิบัติงาน ของกอ.รมน.

ทั้งนี้ขอให้กองทัพ และ กอ.รมน. ช่วยเหลือประชาชนยามเกิดภัยพิบัติ โดยการระดมสรรพกำลัง ทรัพยากร เครื่องมือของกองทัพ และส่วนราชการต่าง ๆ เข้าสนับสนุน ช่วยเหลือและป้องกันประชาชนยามเกิดภัยพิบัติ ร่วมกันพัฒนาประเทศสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจปากท้องประชาชน แก้ปัญหาสังคมที่ต้นเหตุ คือแก้ความยากจน แก้ความยากจน จากปัญหาที่ดินทำกิน โดยการ นำพื้นที่ของหน่วยที่เกินความจำเป็นมาใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนโดยเฉพาะการใช้ที่ดินเพื่อการเกษตร การใช้เป็นแหล่งเรียนรู้เพื่อสนับสนุนการสร้างรายได้ การสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ และการสร้างความเข้มแข็งด้านสังคมของประเทศ

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า อีกเรื่องหนึ่งที่ตนได้พูดในช่วงเช้า ว่าเป็นเรื่องใหญ่ และคิดว่าทางกองทัพมีความปรารถนาดีโดยมีการพูดคุยกันตั้งแต่วันแรกๆที่ตนเองเข้ารับสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีการพูดคุยขอร้องว่าอยากให้ช่วยดูเรื่องอะไรบ้าง โดยหนึ่งในเรื่องที่ขอร้องซึ่งใช้เวลาไม่ถึง 2 เดือนก็สามารถเห็นออกมาเป็นรูปธรรมได้ โดยความร่วมมือระหว่างภาคการเมืองกับทางด้านกองทัพ เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของพี่น้องประชาชน ซึ่งอยากให้ทางกองทัพมีส่วนร่วมในการพัฒนา ประเทศ สร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน ร่วมแก้ไขปัญหาสังคมที่ต้นเหตุ คือความยากจน แก้ไขปัญหาที่ดินทำกินโดยการนำพื้นที่ของหน่วยที่เกินความจำเป็นมาใช้เป็นประโยชน์ต่อประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ที่ดินการเกษตร การใช้เป็นแหล่งเรียนรู้เพื่อสร้างรายได้สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งทางด้านสังคมของประเทศ

“เรื่องนี้ผมต้องขอชื่นชมทางกองทัพที่ได้ดำเนิน นโยบายการนำที่ดิน ภายใต้การดูแลของกองทัพมาให้ประชาชนใช้ประโยชน์เป็นรูปธรรมผ่านโครงการหนองวัวซอโมเดล ซึ่งมีพื้นที่รวม 9,276 ไร่ ใช้เวลาเพียง 1 เดือน โดยกำหนดส่งมอบถึงมือประชาชน ในวันที่ 25 ธันวาคมสิ้นปีนี้ถือว่าเป็นของขวัญปีใหม่ที่ล้ำค่าต่อพี่น้องประชาชนจากกองทัพไทย เรื่องนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่กองทัพมีบทบาทในการพัฒนาศักยภาพของประเทศด้วยการสนับสนุนให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการจัดสรรทรัพยากร ซึ่งหวังอย่างยิ่งว่าจะขยายตัวไปยังพื้นที่ต่างๆ เรื่องนี้ ตนได้บอกว่าเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งจริงๆแล้วโดยส่วนตัวผมมีความชื่นชมต่อเรื่องนี้ และเป็นเรื่องที่เราพูดคุยกันมาหนเดียวและภายในเวลาเดือนกว่าๆก็ออกมาเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน”นายเศรษฐากล่าว

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานประชุมชี้แจงมอบนโยบายแนวทางการปฏิบัติงาน ของกอ.รมน.

“ในส่วนของ กอ.รมน. สนับสนุนการแก้ปัญหาฝุ่นพิษ เพื่อคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ประชาชน ผมทราบว่า กอ.รมน.มีทีมงานที่ทำงานร่วมกับนักวิชาการแขนงต่าง ๆ จนทำให้มีความรู้ความเข้าใจดียิ่ง ในการเปลี่ยนวัสดุการเกษตร ใบไม้แห้งในป่าเขาที่เคยถูกเผา สร้างฝุ่นควันพิษ ให้กลายเป็นเงิน สร้างรายได้ให้ประชาชน และยังทราบว่าขณะนี้มีความพร้อมจะขยายผลอย่างจริงจังแล้ว กอ.รมน. จะเป็นหน่วยงานสำคัญหน่วยหนึ่ง ที่จะช่วยแก้ปัญหาฝุ่นควันพิษ ปัญหามลพิษทางอากาศเพื่อความยั่งยืน ขอส่วนราชการต่าง ๆ ให้ความสนับสนุน พร้อมกับร่วมกันเดินหน้าอย่างจริงจัง ส่วนเรื่องกระแสการยุบกอ.รมน.นั้นรัฐบาลชุดนี้ไม่มีความคิด หรือนโยบายที่จะยุบกอ.รมน.”นายเศรษฐากล่าว