อย่าลืมพกร่ม! วันนี้ (15 มิ.ย.67) ภาคเหนือ – กทม. มีฝนตกหนัก 40%

ภาคเหนือ - กทม. มีฝนตกหนัก 40%
ภาคเหนือ - กทม. มีฝนตกหนัก 40%

สภาพอากาศวันนี้ (15 มิ.ย.67) ภาคเหนือ – กทม. มีฝนตกหนัก 40% ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และฝนที่ตกสะสม

  • ระวังอันตรายจาก มีฝนตกหนัก
  • และฝนที่ตกสะสม

วันที่ (15 มิ.ย.2567) กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามันตอนบน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และฝนที่ตกสะสม

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วย ความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ (16 มิ.ย.)

ภาคเหนือ

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง

บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ตาก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ชัยภูมิ นครราชสีมา ศรีษะเกษ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี

อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคกลาง

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดอุทัยธานี กาญจนบุรี ลพบุรี สระบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออก

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 25-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15–30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15–30 กม./ชม.

ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง และพังงา อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดพังงาขึ้นมา : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15–35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ตั้งแต่จังหวัดภูเก็ตลงไป : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15–30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

กรุงเทพและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ส่วนการคาดการณ์เดือนนี้

ในช่วงประมาณครึ่งแรกของเดือน ปริมาณและการกระจายของฝนยังคงมีน้อย โดยจะมีฝนร้อยละ 20 – 30 ของพื้นที่เป็นส่วนใหญ่ และจะก่อให้เกิดสภาวะฝนทิ้งช่วงในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่แล้งซ้ำซากนอกเขตชลประทาน เนื่องจาก มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทย ยังคงมีกำลังอ่อน

จากนั้นในช่วงครึ่งหลังของเดือนปริมาณ และการกระจายของฝนจะมีเพิ่มมากขึ้น และต่อเนื่อง กับจะมีฝนหนักถึงหนักมากในบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก  เนื่องจาก มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมบริเวณประเทศไทย จะมีกลับมามีกำลังแรงขึ้นประกอบกับในบางช่วงจะมีร่องมรสุมพาดผ่านบริเวณตอนบนของทั้งภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 

ดังนั้นจึง สรุปว่า เดือนนี้ปริมาณฝนรวมส่วนใหญ่จะใกล้เคียงค่าปกติเว้นแต่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือปริมาณฝนรวม จะน้อยกว่าค่าปกติประมาณร้อยละ

10 สำหรับอุณหภูมิเฉลี่ยยังคงสูงกว่าค่าปกติใกล้

ข้อควรระวัง

เดือนนี้ มักจะมีพายุหมุนเขตร้อนก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือด้านตะวันตก และเคลื่อนตัวผ่านประเทศฟิลิปปินส์ลงสู่ทะเลจีนใต้ ซึ่งจะส่งผลให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะบริเวณชายฝั่งภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก จึงขอให้ประชาชนติดตามข่าวพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาไว้ด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : เตือนฝนตกหนัก 15-19 มิ.ย.

: เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา