เมาแล้วขับพุ่ง! รัฐย้ำร้านค้าห้ามจำหน่ายสุราให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี

เมาแล้วขับ
แฟ้มภาพ

เมาแล้วขับพุ่ง! กรมควบคุมโรค ย้ำร้านค้าห้ามจำหน่ายสุราให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี หลัง 2 วัน พบคนดื่มแล้วขับ 947 ราย คิดเป็น 20.88% ของผู้ขับขี่ที่เกิดอุบัติเหตุทางถนนทั้งหมด และเป็นเยาวชนอายุน้อยกว่า 20 ปี ถึง 73 ราย ฝ่าฝืนจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท

  • เมาแล้วขับพุ่ง หลัง 2 วัน พบคนดื่มแล้วขับ 947 ราย
  • เป็นเยาวชนอายุน้อยกว่า 20 ปี ถึง 73 ราย
  • ฝ่าฝืนจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท

นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า จากระบบเฝ้าระวังการบาดเจ็บในช่วงเทศกาล กระทรวงสาธารณสุข ข้อมูลสะสมช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2 วัน ในวันที่ 11-12 เมษายน 2567 พบจำนวนผู้ขับขี่ดื่มขับจำนวน 947 ราย คิดเป็นร้อยละ 20.88 ของผู้ขับขี่ที่เกิดอุบัติเหตุทางถนนทั้งหมด และในจำนวนนี้พบผู้กระทำผิดดื่มแล้วขับ เป็นเยาวชนอายุน้อยกว่า 20 ปี ถึง 73 ราย ถือเป็นเรื่องที่น่ากังวลที่เยาวชนไทยเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับรถ ซึ่งอาจพิการหรือสูญเสียชีวิตได้

นายแพทย์ธงชัย กล่าวว่า สงกรานต์นี้ขอให้ทุกคนช่วยกัน หากดื่มต้องไม่ขับ และผู้ขาย ขอให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่จำหน่ายสุราให้กับเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี ไม่จำหน่ายสุราแก่ผู้มึนเมาจนครองสติไม่ได้ ซึ่งหากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท รวมถึงไม่จำหน่ายในสถานที่และเวลาที่ห้ามขาย ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท

นายแพทย์ดิเรก ขำแป้น รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวเพิ่มเติมว่า จากข้อมูลจากระบบเฝ้าระวังการบาดเจ็บภาพรวมทั่วประเทศ พบผู้ใช้รถใช้ถนนดื่มแล้วขับทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนสูงในช่วงเวลาตั้งแต่ 19.00-04.00 น. ซึ่งปัจจุบันกฎหมายเมาแล้วขับมีการเพิ่มโทษให้กับผู้กระทำความผิดในข้อหาขับรถในขณะเมาสุรา สำหรับการกระทำผิดครั้งแรก มีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับ 5,000 บาท ถึง 20,000 บาท

ทั้งนี้หากทำผิดซ้ำข้อหา “เมาแล้วขับ” ภายใน 2 ปี นับแต่วันกระทำผิดครั้งแรก เพิ่มโทษเป็น จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับ 50,000 บาท ถึง 100,000 บาท ซึ่งศาลจะลงโทษจำคุกและปรับด้วยเสมอ และจะถูกพักใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ และหากเมาแล้วขับทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บ เสียชีวิต มีโทษสูงสุด 10 ปี ปรับ 200,000 บาท และเพิกถอนใบอนุญาตขับรถทันที

ดังนั้นกรมควบคุมโรค ขอส่งความห่วงใย อยากเห็นคนไทยเดินทางปลอดภัยและมีสุขภาพดี จึงขอให้ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ขับขี่ยานพาหนะด้วยตนเอง พร้อมมอบหมายให้สำนักงานป้องกันควบคุมโรค (สคร.) ทั้ง 12 เขต สุ่มตรวจการกระทำผิดกฎหมาย ทั้งการขายสุราในสถานที่ห้ามขาย สำรวจร้านค้าในชุมชนที่ขายสุราในเวลาห้ามขาย

และให้หน่วยงานในสังกัดกรมควบคุมโรคจัดทีมเจ้าหน้าที่ออกตรวจเตือน/ตรวจจับผู้กระทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะกรณีพบผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี และมีการดื่มสุรา จะส่งข้อมูลให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสอบสวนและดำเนินคดีไปถึงผู้ขาย

อย่างไรก็ตามหากประชาชนพบเห็นผู้กระทำผิดกฎหมาย ให้โทรศัพท์แจ้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนบุหรี่และสุรา โทร. 0-2590-3342 หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง

ส่วนกรณีเมาแล้วขับ ประกันรถยนต์จ่ายไหม แบ่งออกเป็น 2 แนวทางเนื่องจาก ประกันรถยนต์มีทั้ง พ.ร.บ.รถยนต์ หรือ ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ (ประกันชั้น 1, ประกันชั้น 2+ และประกันชั้น 3+) แต่ละประเภทมีเงื่อนไขในการคุ้มครองที่แตกต่างกัน

กรณีที่ 1 พ.ร.บ.รถยนต์ คือคุ้มครองผู้เอาประกันรถยนต์และคู่กรณี โดยไม่พิสูจน์ความถูกหรือผิด ซึ่งจ่ายเป็นค่าสินไหมทดแทนสำหรับค่ารักษาพยาบาลเพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที แต่ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ของผู้เอาประกัน พ.ร.บ.รถยนต์ จะไม่คุ้มครอง

กรณีที่ 2 ถ้าแอลกอฮอล์ในเลือดไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ประกันรถยนต์จะคุ้มครองทั้งผู้เอาประกันและฝ่ายเสียหาย แต่ถ้าแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ประกันรถยนต์จะไม่คุ้มครองผู้เอาประกัน แม้จะซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่มีเบี้ยสูงสุดก็ตาม

แม้บางคนคิดอาจว่า มีเงินจ่ายค่าปรับตามกฎหมายในกรณีที่เมาแล้วขับ แต่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ไม่คุ้มค่ากับการจ่ายเงินเลยสักนิด และร้ายแรงที่สุดอาจทำให้ผู้อื่นพิการหรือเสียชีวิตได้ ทางที่ดีที่สุดคือ ดื่มไม่ขับ ช่วยลดอุบัติเหตุและความปลอดภัยบนท้องถนน

ส่วนแนวทางป้องกันเมาแล้วขับบทลงโทษของผู้ที่เมาแล้วขับจะเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่การป้องกันเมาแล้วขับอย่างจริงจังควรเริ่มต้นจากตัวเราเอง ดังนี้

1.ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างมีสติ ไม่ควรดื่มจนเมา
2.หากจำเป็นต้องขับรถกลับบ้าน ควรหาคนมารับ หรือใช้บริการรถสาธารณะ
3.หากจำเป็นต้องขับรถเอง ควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
4.การเมาแล้วขับเป็นพฤติกรรมที่อันตรายและอาจก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงได้ ช่วยกันป้องกันเมาแล้วขับ รักษาความปลอดภัยบนท้องถนน และลดอุบัติเหตุกันเถอะ

อ่านข่าวเพิ่มเติม https://thejournalistclub.com/%e0%b8%a2%e

https://www.prd.go.th/th/content/category/detail/id/1488/iid/147290