“ แลนด์บริดจ์ ”ยกฐานะไทย เป็น Game Changers ผู้เปลี่ยนเกมของโลก

แลนด์บริดจ์-ประเทศไทย-Game-Changers-ปลัดคมนาคม
ดร.ชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม

ภายหลังรัฐบาล นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน นำข้อเสนอการลงทุน “โครงการ แลนด์บริดจ์ ” ออกไปโรดโชว์ในหลายประเทศ โดยเฉพาะกับประเทศที่มีระบบการขนส่งสินค้า และท่าเทียบเรือขนาดใหญ่ของโลก อย่าง ดูไบ ยุโรป จีน และ ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 

Game Changers : ผู้เปลี่ยนเกมของโลก จากโครงการ แลนด์บริดจ์ ของไทย

ประเทศไทยก็ได้ชื่อจากผู้นำรัฐบาล และ นักธุรกิจชั้นนำว่า เป็น Game Changers : ผู้เปลี่ยนเกมของโลก! (คนใหม่)

จอร์จ โลอิส นักคิด และนักสื่อสารระดับปรมาจารย์ ของอเมริกา เขียนหนังสือแนะนำผู้ ที่ไม่อยากขังตัวเอง ไว้กับกฏเกณท์เดิมๆว่า ความคิดสร้างสรรค์ สามารถแก้ไข ได้แทบทุกปัญหา…

และการกระทำ อันสร้างสรรค์ ที่เข้ามาทำลายความจำเจ ด้วยความแปลกใหม่ ล้วนเอาชนะได้ทุกสิ่ง”

อา…ฉันใด ก็ฉันนั้น โครงการ แลนด์บริดจ์ คือ โครงการที่จะเปลี่ยนเส้นทางการขนส่งทางเรือของโลกใหม่ จากเดิมที่การขนส่งทางเรือ จะต้องผ่านเข้าสู่ เส้นทางเดินเรือ สำคัญที่สุดของโลก อย่าง คลองสุเอซ และ ช่องแคบมะละกา

แลนด์บริดจ์-ประเทศไทย-Game-Changers-
โครงการแลนด์บริดจ์

จากเส้นทางเดินเรือเก่าแก่ 

คลองสุเอซ – ช่องแคบมะละกา

คลองสุเอซ ซึ่งใช้แรงงานมนุษย์ สร้างขึ้น ในประเทศอียิปต์ เมื่อกว่า 160 ปีก่อน เพื่อเชื่อมต่อ ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน กับทะเลแดง โดยผ่านเข้าสู่ ช่องแคบสุเอซ ที่คั่นระหว่างทวีปแอฟริกา และ ทวีปเอเชีย มีความยาว 193.30 กิโลเมตร(120. 11 ไมล์) กว้าง 300 – 350 เมตร ลึก 20.1 เมตร ใช้เวลาสร้าง 10 ปี

ก่อนเปิดให้ใช้ อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 17 พ.ย.ปี พ.ศ.2412 เพื่อเป็นเส้นทาง เชื่อมต่อ ระหว่าง มหาสมุทรแอตแลนติก และมหาสมุทรอินเดีย ผ่านทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และทะเลแดง โดยไม่ต้องอ้อม ไปยังแหลมกู๊ดโฮป ทวีปแอฟริกา ซึ่งมีระ ยะทาง 20,900 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง นานถึง 24 วัน 

แต่การเดินเรือ ผ่านคลองสุเอซ สามารถลด ระยะทางไปกว่า 8,900 กิโลเมตร และใช้เวลาเดินทาง เพียง 8 – 10 วัน 

“ปลัดแจ็ค”ดร.ชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม เล่าว่า คลองสุเอซ เคยเกิดวิกฤตการณ์ใหญ่ จนต้องปิดคลอง ห้ามการเดินเรือนานถึง 8 ปี จากสงครามอียิปต์ กับ อิสราเอล ที่มีการวางทุ่นระเบิด ในคลองด้วย

ครั้งนั้น มีเรือขนส่งสินค้า 14 ลำ พร้อมลูกเรือ ติดค้างอยู่ในคลอง นานถึง 8 ปีไปด้วย ถึงวันนี้ สงครามระ หว่างอิสราเอล กับ กลุ่มปาเลสไตน์หัวรุนแรง กลับมาสร้างความสั่นสะเทือน แก่โลกอีกครั้ง

และในเดือนมี.ค.2564 เรือขนส่งขนาดใหญ่ ชื่อ Ever Green ที่ดำเนินงาน โดยบริษัทจากไต้หวัน ต้องเจอ กับพายุทราย ที่มีความเร็วลมสูงซัดกระหน่ำ จนทำให้เรือ ถูกพัดไปเกยตื้น ขวางทางเดินเรือ ในคลองสุเอซ เป็นจระเข้ขวางคลอง นานถึง 7 วัน สร้างความเสียหาย สูงถึงวันละ 9,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

ช่องแคบมะละกา

ในความแออัด และ พลุกพล่าน

การเดินเรือ ผ่านเส้นทาง สำคัญอีกเส้น ก็คือ “ช่องแคบมะละกา” ซึ่งกั้นระหว่าง ประ เทศมาเลเซีย กับสิงคโปร์ แม้จะเป็นความจริง ที่เรือบรรทุกสินค้าส่วนใหญ่ ใช้เส้นทางนี้ กันอย่างพลุกพล่าน ทั้งการขนส่งน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และ สินค้าอุปโภคบริโภคมากมาย เพื่อผ่านไปสู่ มหาสมุทรอินเดีย กับทะเลจีนใต้

แต่น่านน้ำ ที่แออัดแห่งนี้ ในอีกไม่ถึง 10 ปีข้างหน้า มีหวังว่า จะสร้างปัญหาใหญ่ ให้กับเรือขนส่งสินค้า ซึ่งขณะนี้ใช้เส้นทางนี้ มากถึงปีละ 8,000 – 9,000 ลำ เกือบเต็มกำลังความสามาร ถที่จะรองรับเรือ 12,000 ลำต่อปีได้”

อย่างที่ย่าบอก ไว้ตอนต้นว่า ความคิดใหม่ๆ ที่สร้างสรรค์ สามารถแก้ไขได้แทบทุกปัญหา ดังตัวอย่างการนำเสนอ โครงการแลนด์บริดจ์ ของ ประเทศไทย ออกมาในตลาดโลก นั่นปะไร!

แลนด์บริดจ์-ประเทศไทย-Game-Changers-
โครงการแลนด์บริดจ์

“ แลนด์บริดจ์ ” จุดยุทธศาสตร์ 

เส้นทางการขนส่งทางเรือแห่งใหม่ของโลก

ปลัดแจ็ค ให้ข้อมูลชัดๆว่า แลนด์บริดจ์ ไม่ได้เป็นการพัฒนา โครงสร้างพื้นฐาน แต่เป็นการทำ ให้จุดที่ตั้ง ตามภูมิศาสตร์ของประเทศไทย ที่บรรพบุรุษ เก็บรักษา และส่งต่อให้ลูกหลาน ได้รับการมองเห็น ถึงศักยภาพของประเทศไทย ในการเสนอตัว เป็นศูนย์กลาง การเดินเรือ ที่สำคัญของโลก อีกเส้นทางหนึ่ง

“ประเทศไทย ตั้งอยู่ตรงกลาง ของสองคาบสมุทร คือ มหาสมุทรอินเดีย กับ แปซิฟิค และมีจุดที่แคบที่สุด ไม่ถึง 100 กิโลเมตร ระหว่างชุมพร – ระนอง”

ถึงเวลา ที่จะใช้ความได้เปรียบ ทางภูมิศาสตร์ที่ประเทศอื่น แย่งไปไม่ได้ มาเป็นเส้นทาง การเดินเรือขนส่งสินค้า และระบบโลจิสติกใหม่ ของโลกแล้ว “จริงๆเราคุยกัน เรื่องนี้มาหลายปีเต็มที อย่างเรื่องของการขุดคอคอดกระ เป็นต้น แต่ครั้งนี้ แตกต่างออกไป”

 3 เหตุผลของ Game Changers

กับที่ตั้งของประเทศไทยในทำเลทอง

เพราะ 1.ไทยมีที่ดิน ในทำเล ที่มีศักยภาพสูง และอยู่ใน Prime Area ที่ยังไม่ได้ นำมาใช้ ให้เกิดประโยชน์ เวลานี้ เราไปประกาศ ให้โลกรับรู้แล้วว่า เรามีที่ดินจะสร้าง แลนด์บริดจ์ ให้ประเทศต่างๆที่มีความสามารถ ในการบริหารจัดการระบบการขน ส่งทางเรือ ท่าเทียบเรือ และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เสนอรูปแบบการลงทุนเข้ามา

“รัฐบาลไทย จะไม่ลงทุนในโครงการนี้เอง การออกไปนำเสนอ แลนด์บริดจ์ ที่จะเป็นเส้นทางเดินเรือเพื่อการขนส่งแห่งใหม่ของโลกนี้ ยังเป็นไป เพื่อรับฟังว่า ผู้คนคิดอย่างไร และ อยากให้รัฐบาลไทย ทำอะไรบ้าง เพราะโครงการนี้ ต้องใช้เงินเป็นล้านล้านเหรียญ แต่เราไม่มีกำลังพอ”

ถ้ารัฐบาล สร้างโครงการนี้ เป็นโครงสร้างพื้นฐานเอง แต่ไม่มีปัญญา ไปควานหาสายการเดินเรือในโลก เจ้าของท่าเทียบเรือขนาดใหญ่ หรือผู้ผลิตรายใหญ่ ที่เป็นโรงงานผลิตสินค้าโลกเข้ามา ที่สุดโครงการนี้ก็คงไปไม่รอด และ ไม่มีใครมาใช้

2.เพราะเส้นทางเดินเรือเก่า อาจจะสร้างปัญหา ทั้งจาก Geo politic และความแออัด อย่างที่บอกไปในช่วงต้น ในเวลาเดียวกัน ก็ให้เป็นจังหวะ ที่หลายประเทศกำลังมองหา เส้นทางการเดินเรือใหม่พอดี 

3.เพราะเทคโนโลยีการก่อสร้าง แลนด์บริดจ์ มีความทันสมัยแล้ว และสามารถ ใช้ความก้าวหน้า ของปัญญาประดิษฐ์ มาช่วยสร้าง ระบบการขนถ่ายสินค้า ขึ้นลงจากท่าเทียบเรือหนึ่ง ไปลงยังท่าเทียบเรืออีกฝั่ง ได้โดยไม่ยุ่งยาก และน่าจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าด้วย 

แลนด์บริดจ์-ประเทศไทย-Game-Changers-
โครงการแลนด์บริดจ์

คำถามกวนโอ้

แลนด์บริดจ์ กี่โมงจะเสร็จ?

ปลัดแจ็ค ตอบคำถามที่ว่า แลนด์บริดจ์ไปถึงไหนแล้ว และกี่โมงจะเสร็จ? ว่า จน กว่ารัฐบาล และกระทรวงคมนาคมในฐานะเจ้าของเรื่อง จะได้คำตอบเป็นที่น่าพอใจ ในประเด็นการลงทุนของต่างชาติ

กระทรวงคมนาคม ร่างข้อกฏหมายหลักๆเสร็จแล้ว คำตอบที่ได้ จากการไปโรดโชว์ จะนำมาเขียน เพิ่มเติมว่า ต้องมีเงื่อนไข จูงใจอย่างไร แต่ลำพังกระทรวงคมนาคม ทำให้โครงการนี้ เกิดไม่ได้ หลายกระทรวงทบวงกรม จึงต้องเข้ามาช่วยเป็นคณะกรรมการ และต้องมีคนรายงานตรง ต่อนายกฯวันต่อวัน

“คงจะต้องใช้แผนเดียวกันกับ โครงการ EEC แต่ต้อง On Top เข้าไป เพราะต้องใช้เงินลงทุนสูง เทียบได้กับโครงการขนาดใหญ่ของโลก เมื่อเขียนกฏหมายเสร็จ ต้องส่งสภาฯพิจารณา จากนั้น ตั้งคณะกรรมการ แล้วค่อยเขียนเงื่อนไข การประมูล ผมคิดว่า ปลายปีนี้ กฏหมายควรจะเสร็จ และใช้เวลาสักปีเพื่อดำเนินการ ต่างๆ ก่อนเปิดประมูลในปี 2569” 

ถ้าไม่มี แลนด์บริดจ์

จะตอบลูกหลานวันข้างหน้าไงดี!

“ลองหลับตา กลับไปเมื่อ 40 กว่าปีก่อน ถ้าไม่มีโครงการ อีสเทิร์นซีบอร์ด ที่นำพาประเทศไทย เอาวัตถุดิบออกไปค้าขายกับต่างประเทศ และรองรับการลงทุนด้านพลังงาน จากต่างประเทศ วันนี้ประเทศไทย จะเป็นอย่างไร…

ทีนี้ถ้าหลับตา กลับไปเมื่อ 20 ปีก่อนอีกหน ถ้าไม่มีสุวรรณภูมิ จะเอาสนามบินที่ ไหนรองรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ที่เข้ามาปีละ 30 – 45 ล้านคน และในอีก 10 – 20 ปีข้างหน้า ถ้าไม่ทำแลนด์บริดจ์ คุณคิดว่า ลูกหลานจะถามไหมว่า พวกเรามัวทำอะไรอยู่” ปลัดแจ็ค ตบท้ายแบบตีแสกหน้าเข้าให้

อ่านจบแล้ว ก็ช่วยบอกอีลูกช่างขัดให้สงบปากด้วย!

                                                                                                                        คุณย่าขาซิ่ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : สุริยะ จัดให้ Thailand Landbridge Roadshow จีน

ข้อมูลอ้างอิง : โครงการแลนด์บริดจ์ โดย สนข.