IATA ผนึก A4E ยุโรปชงตั้งองค์กรอิสระคุมมลพิษทางอากาศ รัฐมนตรีขนส่งอียูรับลูกยกแผนปี’63 ฟื้นถกรอบใหม่ในสภา

  • IATA ผนึก A4E แอร์ไลน์สแห่งสหภาพยุโรป ถกรัฐมนตรีขนส่งลุยชงรัฐสภายุโรปรับลูกพิจารณาตั้ง “องค์กรอิสระ”
  • ฟื้นใช้รายละเอียดตามข้อเสนอคณะกรรมาธิการปี’63 เดินหน้าเรื่องเร่งด่วนการจัดการจราจรทางอากาศเหนือน่านฟ้ายุโรป
  • เพื่อประกาศลดปล่อยคาร์บอนและมลพิษซึ่งเป็นภัยต่อสิ่งแวดล้อมโลก

สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA -International Air Transport Association) รายงานว่า ได้ร่วมกับสายการบินแห่งสหภาพยุโรป (A4E) ประชุมพร้อมีมติเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2565 เรียกร้องให้รัฐมนตรีกระทรวงการขนส่งของสหภาพยุโรปยอมรับคำแนะนำเรื่องการจัดการจราจรทางอากาศของยุโรป (ATM -Air Traffic Management) ซึ่งจะต้องนำเสนอปรับปรุงด้านสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะการจัดตั้งหน่วยงานอิสระปฏิบัติงานเพื่อตรวจสอบดูแลสิ่งแวดล้อมทางอากาศในภาคพื้นยุโรป 

การหารือกันครั้งทางรัฐมนตรีคมนาคมสหภาพยุโรปรับข้อเสนอของสมาคมไออาต้าและสายการบินแห่งสภาพยุโรปเรื่องการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมทางอากาศ โดยจะนำวาระดังกล่าวไปเจรจากับรัฐสภายุโรปอีกครั้ง โดยก่อนหน้านี้เมื่อปี 2563 (ค.ศ.2020) ทางคณะกรรมาธิการยุโรปได้อภิปรายไว้แล้ว เพื่อที่จะเรียกร้องให้มีหน่วยงานกำกับดูแลที่เป็นอิสระอย่างเต็มที่เพื่อประเมินประสิทธิภาพของผู้ให้บริการการเดินอากาศแห่งยุโรป (ANSPs-Air Navigation Service Porviders)

แต่ครั้งนั้นประเทศสมาชิกในยุโรปปฏิเสธเรื่องที่คณะกรรมาธิการได้ผลักดันเข้าสู่การพิจารณาของรัฐบาล เพื่อให้มีการควบคุมอย่างเข้มงวดขึ้น แต่ทางสายการบินต่าง ๆ หวั่นเกรงผลการพิจารณาในนาทีสุดท้ายอาจจะออกมาไม่เป็นน่าพอใจหากผลสรุปออกมาว่าจะให้รัฐต่าง ๆ สามารถตัดสินและกำหนดเป้าหมายการทำ ANSPs ได้ตามกฎระเบียบของแต่ละรัฐเอง แล้วจะตรวจสอบกันอย่างไร และจะทำให้การจัดการสิ่งแวดล้อมทางอากาศทั่วสหภาพยุโรปเกิดผลสำเร็จได้

Rafael Schvartzman รองประธาน IATA ประจำภูมิภาคยุโรป กล่าวเชิงเปรียบเทียบว่า หากทีมในฟุตบอลโลกต้องการผู้ตัดสินอย่างเป็นอิสระ การจัดการจราจรทางอากาศก็ควรทำเช่นเดียวกัน เพราะข้อเสนอของคณะกรรมาธิการเมื่อปี 2563 นั้นชัดเจนถึงความต้องการประเทศต่าง ๆ ถึงแนวทางปฏิบัติไม่ควรผู้ให้บริการการเดินอากาศในรัฐของตนเองดำเนินการ แต่ตองค์กรอิสระตัดสินจะดีกว่า โดยกำหนดเป้าหมายอย่างโปร่งใสและมีประสิทธิภาพเพื่อช่วยลดการปล่อยมลพิษและไม่ควรจะให้เกิดความล่าช้าอีกต่อไป

Rafael Schvartzman

สำหรับประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปที่หวั่นเกรงผลกระทบทางการเมืองจากการทำให้สหภาพแรงงานควบคุมการจราจรทางอากาศที่เคยมีอำนาจไม่พอใจ ต่อสถานการณ์ด้านความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และการปรับปรุงด้านสิ่งแวดล้อมที่จะสร้างขึ้นในรูปแบบน่านฟ้าเดียวแห่งยุโรปหรือ Single European Sky นั้น ในทางปฏิบัติมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกภาคส่วนจะต้องร่วมมือกันค้นหาวิธีลดการปล่อยคาร์บอน ซึ่งเป็นตัวก่อให้เกิดแรงผลักดันใหม่ในการปฏิรูปสายการบินสนับสนุนข้อเสนอของคณะกรรมาธิการปี 2563 ให้เกิดเป็นรูปธรรม รวมถึงเป็นช่องทางสร้างโอกาสใหม่ที่น่ายินดีในการเพิ่มประสิทธิภาพวิถีการบินไปสู่ทางเลือกที่ดีกว่าเป็นมิตรกับโลกด้วย

Thomas Reynaert กรรมการผู้จัดการของ Airlines for Europe กล่าวว่า ในช่วงเวลาที่นักการเมืองบรรยายเกี่ยวกับการบินเป็นประจำถึงผลกระทบต่อสภาพอากาศ แต่พวกเขากลับปฏิเสธที่จะช่วยกันผลักดันการปฏิรูปซึ่งสามารถลดการปล่อยมลพิษในน่านฟ้ายุโรปได้ถึง 10% ส่วนการประชุมรัฐมนตรีคมนาคมขนส่งของสหภาพยุโรปครั้งนี้ประกาศจะช่วยผลักดันให้รัฐสภาพรับข้อเสนอเรื่องการปรับปรุงการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมทางอากาศ ตามที่สายการบินของยุโรปเรียกร้องให้รัฐมนตรีเร่งใช้โอกาสและดำเนินการตามข้อเสนอของคณะกรรมาธิการยุโรปเพื่อบรรลุข้อตกลงที่ดีกับทั้งประเทศสมาชิก สายการบิน และสิ่งแวดล้อม เพราะไม่สามารถยอมรับหรือเห็นด้วยกับวิธีที่จะใช้การประนีประนอมเรื่องมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมเหนือน่านฟ้าได้อีกต่อไป

ปัจจุบันสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ เป็นตัวแทนของสายการบิน 290 สายการบิน ซึ่งคิดเป็น 83% ของการจราจรทางอากาศทั่วโลก

ส่วน A4E -Airlines for Europe เป็นสมาคมสายการบินใหญ่ที่สุดของยุโรป มีบทบาทการทำงานร่วมกับผู้กำหนดนโยบายเพื่อผลักดันนโยบายการบินเพื่อการเชื่อมโยงระหว่างยุโรปกับทั่วโลกอย่างปลอดภัย แข่งขันได้ และยั่งยืน ในฐานะผู้ริเริ่มหลักในแผนงานการบิน ตั้งเป้าปี 2593 (ค.ศ.2050) สมาชิกมุ่งมั่นจะบรรลุลดการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์

ปี 2564 สมาชิก A4E มีฝูงบินกว่า 3,200 ลำ ให้บริการผู้โดยสารกว่า 270 ล้านคน เปรียบเทียบแล้วลดลงจากก่อนสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ปี 2562 มีผู้โดยสารกว่า 700 ล้านคน โดยมีส่วนร่วมขนส่งสินค้าทางอากาศและไปรษณียภัณฑ์ (cargo) วัคซีนช่วยชีวิต และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นไปยังจุดหมายปลายทางกว่า 360 แห่ง

เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen