- ยอดขายรายไตรมาสลดลงเกือบ 20%
- จากผลกระทบในตลาดจีน ผู้บริโภคชะลอการใช้จ่าย
- หลายแบรนด์หันมามองตลาดอาเซียน อินเดียและตะวันออกกลาง
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า กลุ่มบริษัท Kering SA จากประเทศฝรั่งเศสเจ้าของผลิตภัณฑ์ลักชัวรี่แบรนด์เนมหลายแบรนด์ รวมถึง Gucci แบรนด์สัญชาติอิตาลีซึ่งมียอดขายครึ่งหนึ่งและกำไรถึงสองในสามของกลุ่ม ประสบปัญหามูลค่าตลาดของบริษัทหดหายไปถึง 9,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯหรือประมาณ 3.26 แสนล้านบาท หลังจากมีสัญญาณเตือนว่ายอดขายในตลาดจีนลดลงในไตรมาสนี้
ทาง Gucci ได้ประกาศเมื่อวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา ว่ายอดขายในไตรมาสนี้ลดลงเกือบ 20% นำโดยภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ราคาหุ้นดิ่งสุดในรอบสามทศวรรษ ทั้งนี้อุตสาหกรรมแฟชั่นลักชัวรี่แบรนด์ได้รับแรงหนุนยอดขายเติบโตมาต่อเนื่องจากตลาดจีน กำลังเผชิญกับสภาพความเป็นจริง โดย Gucci ซึ่งเป็นแบรนด์เรือธงภายใต้กลุ่มบริษัทฝรั่งเศส Kering SA ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ล่าสุดของเทรนด์ที่น่าวิตกนี้ ภายหลังการยอมรับว่ายอดขายของ Gucci ในจีนลดลง
สัญญาณดังกล่าวยังรวมถึงอุตสาหกรรมนาฬิกาจากสวิสเซอร์แลนด์ที่ส่งนาฬิกากับไฮเอนด์ไปขายให้กับเศรษฐีชาวจีนในเดือนที่ผ่านมามีรายงานว่ามียอดขายลดลง และนักวิเคราะห์ยังคาดการณ์ว่าดีมานด์ในจีนจะมีแนวโน้มลดลงอีกในปีนี้ ส่งสัญญาณถึงความต้องการสินค้าฟุ่มเฟือยภายในประเทศที่ลดลงในวงกว้าง
จากปัญหาผลกระทบของเศรษฐกิจภายในประเทศจีน การว่างงานที่เพิ่มขึ้นและการชะลอตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในจีนกัดกร่อนความเชื่อมั่นของผู้บริโภค รวมถึงแรงกดดันจากภาวะเงินฝืดยังส่งผลกระทบระยะยาวต่อแนวโน้มการเติบโต จากเดิมเป็นที่ทราบกันดีว่าผู้บริโภคชาวจีนใช้เงินช้อปปิ้งลักชัวนี่แบรนด์กันอย่างคึกกคัก
ซึ่ง Gucci รู้สึกถึงความรุนแรงของการเปลี่ยนแปลงนี้ โดยยอดขายออนไลน์ลดลงอย่างเห็นได้ชัดในไม่กี่เดือนที่ผ่านมาจากช่องทางการและช่องทาง Tmall แม้ว่าจะพยายามฟื้นฟูภาพลักษณ์ของแบรนด์ นำโดย Sabato De Sarno นักออกแบบชาวอิตาลี ผู้อำนวยการฝ่ายครีเอทีฟ ในปีที่ผ่านมาได้นำเสนอการสร้างสรรค์สไตล์มินิมอลมากกว่าการออกแบบที่หรูหราโดย Alessandro Michele ผู้อำนวยฝ่ายครีเอทีฟเดิมที่ลาออกไป
แต่ผลงานการสร้างสรรคที่มุ่งไปยังมินิมอลนั้นยังเร็วเกินไปที่จะตัดสินใจได้ว่าจะโดนใจลูกค้าชาวจีนหรือไม่เพราะเพิ่งวางตลาดได้ไม่นาน
“อู๋ เสี่ยวฟาง” สาวนักการธนาารวัย 34 ปีในเซี่ยงไฮ้ “ฉันไม่ได้ซื้อกระเป๋ากุชชี่ด้วยตัวเองมาหลายปีแล้ว” เธอครั้งหนึ่งเคยหลงไหลในแบรนด์ที่เธอซื้อกระเป๋ามา 3 ใบระหว่างเดินทางไปอิตาลีเมื่อปี 2559 กล่าวว่า “การออกแบบใหมไม่ดี” และยังมีคำถามว่าจะมุ่งไปสู่กลุ่มเป้าหมายใดกัน
มาร์ค หลิว ที่ปรึกษาด้านแฟชั่นกล่าว และมีสไตล์ที่คล้ายคลึงกับ Valentino, Prada และ Celine มากเกินไป ขณะ Kering กล่าวว่าผลิตภัณฑ์ล่าสุดจาก De Sarno ๆ ในคอลเลกชัน Ancora ได้รับการตอบรับอย่างดี
ขณะเดียวกันลักชัวรี่แบรนด์ระดับไฮเอนด์อื่นๆ ก็ประสบปัฐหาการชะลอตัวลงในจีนและฮ่องกง แม้แต่เศรษฐีก็ยังรู้สึกระมัดระวังการใช้จ่าย ซี่งทำให้หลายๆ แบรนด์ได้หันไปให้ความสนใจในตลาดอื่นๆ เพื่อสร้างการเติบโตต่อไปเช่นในอินเดีย, ตะวันออกกลางและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ที่มา-
