“เพื่อไทย”เร่งเปิดประตูการค้าใหม่ทั่วโลก หลังส่งออกติดลบ3ไตรมาสติดต่อกัน

“เพื่อไทย”แจงต้องเร่งเปิดประตูการค้าใหม่ทั่วโลก หลังส่งออกติดลบติดต่อกัน 3ไตรมาส ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำกว่าที่ควรเพียง 1.8% ในไตรมาสที่ 2

  • ขาดการเตรียมพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีครั้งใหญ่
  • ทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยในฐานะประเทศผู้ผลิตต่ำลง
  • สู้ประเทศอื่นได้ยากขึ้น รวมถึงการเจรจาการค้าที่ไม่คืบหน้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจอย่างเป็นทางการของพรรคเพื่อไทยได้โพสต์ข้อความระบุว่า เศรษฐกิจไทยพึ่งพาการส่งออกเป็นหนึ่งในรายได้หลักของประเทศ แต่มูลค่าการส่งออกของไทยยังไม่ดีขึ้น ซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำกว่าที่ควรเพียง 1.8% เท่านั้นในไตรมาสที่ 2  เติบโตต่ำกว่าเพื่อนบ้านหลายประเทศ

ตัวเลขการส่งออกไทยติดลบมาต่อเนื่อง 3 ไตรมาสแล้ว โดยในปี 2565 ไตรมาสที่ 4 ตัวเลขส่งออกติดลบ 8.2% และในไตรมาสที่ 1 ปีนี้ ติดลบ 4.5% ส่วนในไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านไป การส่งออกติดลบ 6.2%

หากไม่ได้มีการบริหารจัดการที่ดีขึ้น แนวโน้มการส่งออกของประเทศไทยจะยังหดตัวต่อไป รายได้ที่เข้าสู่ประเทศจะมีไม่มากเท่าที่ควร สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยภายในที่เราเป็นประเทศรับจ้างผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ล้าสมัยและขาดการเตรียมพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีครั้งใหญ่ ซึ่งทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยในฐานะประเทศผู้ผลิตต่ำลง สู้ประเทศอื่นได้ยากขึ้น รวมถึงการเจรจาการค้าที่ไม่คืบหน้า

นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกยังส่งผลต่อการส่งออกไทย อาทิ เศรษฐกิจของประเทศคู่ค้ามีความผันผวนหรือมีการชะลอตัว และการแข่งขันทางการค้าระหว่างประเทศในภูมิภาคที่เข้มข้นขึ้น

ปัจจัยเหล่านี้เป็นความท้าทายของรัฐบาลที่ต้องเร่งแก้ไข ในระยะสั้น รัฐบาลจะต้องเร่งดำเนินนโยบายเปิดประตูการค้าใหม่กับอีกหลายประเทศทั่วโลก เร่งเจรจาข้อตกลงต่าง ๆ ช่วยอำนวยความสะดวกแก่อุตสาหกรรมต่างๆ ในการผลิตและผลักดันการส่งออกสินค้าไทยสู่ต่างประเทศ และในระยะยาว รัฐบาลจะต้องเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ กำหนดทิศทางในการพัฒนา และสนับสนุนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของไทย เพื่อสร้างรายได้แก่ประเทศและพี่น้องประชาชนต่อไป