ดูไบ ชู ATM 2024 ชิงทัวร์อินเดียรับปี 73 เที่ยวนอก 4 แสนล้านดอลลาร์

ดูไบใช้มหกรรมงานท่องเที่ยว “ATM 2024” ชิงโอกาสทอง “ตลาดทัวร์อินเดีย” ขานรับปี’73 เป็นมหาอำนาจท่องเที่ยวโลกที่จะแห่ใช้เงินเดินทางกว่า 4.1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เลือกเที่ยวตะวันออกกลางเป็นจุดหมายหลักกว่า 30%

  • ดูไบใช้ ATM 2024 โกยทัวร์อินเดียตลาดใหญ่ของโลกใช้เงินเที่ยวสูงลิบ 7,000 ดอลล์/ทริป
  • นำ 4 โพลล์อินเตอร์ยืนยันเศรษฐกิจอินเดียพุ่งแรงหนุนชนชั้นกลางแห่เที่ยวต่างประเทศ
  • UAE งัดจุดขายประเทศใกล้เที่ยวง่าย หนุนเปิดโลว์คอสต์บินตรงขานรับตลาดโต

Danielle Curtis ผู้อำนวยการนิทรรศการ ตะวันออกกลาง (ME) เปิดเผยว่า ผลจากการประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์ตลาดพุ่งเป้าหมายไปยังนักท่องเที่ยวอินเดียก่อนจะเปิดงาน Arabian Travel Market : ATM 2024 ครั้งที่ 31 ระหว่างวันที่ 6-9 พฤษภาคม 2567 ที่ Dubai World Trade Center (DWTC) กรุงดูไบ ซึ่งมีตลาดอินเดียกลุ่มระดับกลางนิยมท่องเที่ยวสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) เติบโตเร็วที่สุด ตามผลสำรวจพบการใช้จ่ายเงินสูงระหว่างเดินทางสูงถึง 7,000 ดอลลาร์สหรัฐ/คน/ทริป ผนวกกับมีคาดการณ์ตลาดอินเดียเดินทางขาออกต่างประเทศมีมูลค่าสูงถึงปีละ 143,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จึงทำให้การท่องเที่ยวตลาดนี้ได้รับความสนใจจากการเชิญชวนเข้าร่วมงาน ATM ปี 2567

ล่าสุดทางองค์การท่องเที่ยวแห่งสหประชาชาติ (UNWTO : United Nation World Travel Organization) ได้ยกย่องอินเดียเป็น 1 ใน 3 ตลาดขาออกที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ตามข้อมูลฐานอายุคนอินเดียเฉลี่ยอยู่ที่ 28 ปีภายในปี 2573 คนอินเดียจะใช้จ่ายการเดินทางทั้งหมดมีมูลค่าสูงถึง 410,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จะเพิ่มสูงขึ้นถึง173 % เมื่อเปรียบเทียบก่อนเกิดโควิดปี 2562 มีเพียง 150,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

จากรายงานของ booking.com กับ McKinsey พบว่าอินเดีย 70% ที่เดินทางไปต่างประเทศเลือกจุดหมายปลายทางใกล้เคียง ในจำนวนนี้มีถึง 1 ใน 3 เลือกมาตะวันออกกลาง โดยมีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ติดอันดับต้น ๆ ตามมาด้วย ซาอุดีอาระเบีย ส่วนข้อมูลจาก DET ระบุอินเดียเป็นตลาดต้นทางอันดับต้น ๆ ของดูไบ ช่วง 10 เดือนแรก ปี2566 มีผู้เยี่ยมชมในออนไลน์มากถึง 1.9 ล้านคน ขณะที่ซาอุดิอาระเบียตั้งเป้าปี 2573 จะมีอินเดียเข้าไปท่องเที่ยวมากถึง 7.5 ล้านคน สอดคล้องกับสถานการณ์จริงก่อนเกิดโควิดระบาดปี 2562 อินเดียเดินทางไปต่างประเทศ 26.9 ล้านคน ปี 2573 คาดจะเพิ่มขึ้นเป็น 50 ล้านคน

ส่วนผลสำรวจของ Acko Insurance ยังยืนยันพฤติกรรมของนักเดินทางชาวอินเดียส่วนใหญ่ยินดีใช้จ่ายเงินเพื่อเดินทางต่างประเทศสูงถึง 7,000 ดอลลาร์สหรัฐ/คน/ทริป

ขณะเดียวกันประเทศแถบทั้งตะวันออกกลาง และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ก็มีพื้นที่ใกล้ชิดกับอินเดีย โดยเฉพาะดูไบจึงเป็นเมืองจุดหมายปลายทางยอดนิยมสามารถบินจากเมืองมุมไบ อินเดีย ใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมง แล้วยังเชื่อมต่อการเดินทางทางอากาศได้ง่ายด้วยตั๋วโดยสารราคาประหยัดจากเมืองรองอื่น ๆ ขณะนี้ทั้งสองประเทศจึงผลักดันให้สายการบินโลว์คอสต์เพิ่มเที่ยวบินตรงระหว่างกันเพิ่มขึ้นด้วย

ตามสถิติปัจจุบันมีอินเดียทำงานอยู่ในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง (GCC :Gulf Corporataion Country)มากกว่า 8.5 ล้านคน เกิดการเดินทางเพื่อธุรกิจและพักผ่อนสบาย ๆ ช่วยสนับสนุนการเติบโตได้เป็นอย่างดี

ในมหกรรมซื้อขายการท่องเที่ยว ATM 2024 ปีนี้ ได้คาดการณ์จะมีธุรกิจท่องเที่ยวทุกสาขาเดินทางเข้ามาร่วมมากเป็นประวัติการณ์ทางผู้จัดจึงจะเปิดเวที “ประชุมสุดยอดอินเดียโดยเฉพาะ” ในหัวข้อ “Unlocking the True Potential of Inbound Indian Travellers” ที่บริเวณ ATM’s Global Stage เริ่มวันแรกของการเปิดงานคือ6 พฤษภาคม เวลา 14.45 -15.25 น. พร้อมกันกับ VIDEC Consultants Private Limited เดินหน้าสำรวจอินเดียในฐานะตลาดต้นทางการท่องเที่ยวสำคัญที่เติบโตอย่างรวดเร็วโอกาสทั้งปัจจุบันและอนาคตให้กับนานาประเทศ

Danielle Curtisกล่าวว่า ชาวอินเดียนิยมเดินทางต่างประเทศเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะได้รับแรงผลักดันโดยกลุ่มคนชั้นกลางกำลังเติบโตเป็นหลักช่วงปี 2563 ประชากรเพียง 37 ล้านคน มีรายได้ครัวเรือนอยู่ระหว่าง10,000-35,000 ดอลลาร์ แต่แนวโน้มภายในปี 2573 เศรษฐกิจอินเดียจะเติบโตอย่างรวดเร็วจนขยับรายรายได้สูงขึ้นเป็น 177 ล้านครัวเรือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งครัวเรือนที่มีรายได้มากกว่าปีละ 35,000 ดอลลาร์ ในปี 2573 จะเพิ่มขึ้นเป็น 6 เท่า จากปี 2563 เคยมีอยู่เพียง 2 ล้านครัวเรือน ปี 2573 จะเพิ่มเป็น 13 ล้านครัวเรือน -เรื่องโดย เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน