“สุดาวรรณ” ใช้เวที ATF 2024 หารือแล้ว 2 บุคคลสำคัญ รองประธาน “USABC” สภาธุรกิจอเมริกา-อาเซียน หนุนซอฟท์ เพาเวอร์ อัตลักษณ์ไทยในเวทีโลก ถก รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา สานต่อโปรเจกต์ “ทวิ-พหุภาคี” One Destination และเที่ยวข้ามแดนอาเซียนทางบกเชื่อม 4 ประเทศ
- “สุดาวรรณ” รุกหารือรัฐ-เอกชนต่างชาติ ดันซอฟท์ เพาเวอร์ ผงาดอาเซียนและโลก
- เปิดตลาดเที่ยวเมืองรอง สานต่อทัวร์ลุ่มน้ำโขง กระตุ้นเปิดเส้นทางบกใหม่ 4 ประเทศ
นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ระหว่างเดินทางเข้าร่วมงาน ATF 2024 :ASEAN Tourism Forum มีโอกาสได้พบปะบุคคลสำคัญในอาเซียนและเอเชีย ล่าสุดพบกับนายไบรอัน แมคฟีเตอร์ รองประธานอาวุโสสภาธุรกิจอเมริกา-อาเซียน ประจำภูมิภาคเอเชีย (USABC) และคณะเพื่อหารือการดำเนินงานความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ที่โรงแรม แลนด์มาร์ค แม่โขง ริเซอร์ไซด์เวียงจันทน์ สปป.ลาว เบื้องต้น 3 เรื่อง คือ เรื่องแรก เสริมสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชนไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เรื่องที่ 2 สนับสนุนการจ้างงานภาคการท่องเที่ยว เรื่องที่ 3 เพิ่มโอกาสในการขับเคลื่อนธุรกิจท่องเที่ยวในพื้นที่เมืองรอง
ทางฝ่ายไทยให้ความสำคัญกับ 2 นโยบายหลัก ได้แก่ นโยบายแรก ซอฟท์ เพาเวอร์ ซึ่งจะใช้เป็นเครื่องมือส่งเสริมจุดเด่นทางการท่องเที่ยว ผ่านช่องทางทำประชาสัมพันธ์อัตลักษณ์แต่ละพื้นที่ให้เด่นชัด เชื่อมโยงกับการส่งเสริมท่องเที่ยวเมืองรอง มุ่งกระจายรายได้นักท่องเที่ยวถึงมือชุมชน นโยบายที่ 2 เน้นย้ำส่งเสริมเปิดฟรีวีซ่าฟรีให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศ ตั้งเป้าหมายขยายวันพักพร้อมใช้จ่ายเงินอยู่ในเมืองไทยให้ยาวหรือนานวันมากขึ้นตลอดทั้งปี
ขณะที่ USABC ได้รายงานถึงแนวโน้มสถานการณ์อาเซียนเดินทางท่องเที่ยว ครอบคลุม 4 เรื่อง ได้แก่ เรื่องแรกกระตุ้นความเชื่อมั่นเรื่องการเดินทางของนักท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้ เรื่องที่ 2 สร้างอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั้งอาเซียนเติบโตอย่างเข้มแข็ง เรื่องที่ 3 ยินดีจะสนับสนุนอัตลักษณ์ของไทยในเวทีโลก เรื่องที่ 4 ร่วมมือส่งเสริมนโยบายระหว่างภาครัฐและเอกชนทำให้เกิดประโยชน์ทางการท่องเที่ยวได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
รมว.สุดาวรรณ กล่าวว่า จากนั้นได้พบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา ถึงแนวทางการเสริมสร้างความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่าง 2 ประเทศ โดยกัมพูชาตอบยินดีจะสนับสนุนความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวกับไทยในทุกระดับ เนื่องจากตลอดเวลาที่ผ่านมามีความสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยวที่ดีต่อเนื่อง ทั้ง 2 ระดับ คือ ระดับทวิภาคีผ่านกลไกคณะทำงานด้านการท่องเที่ยวโดยการลงนามข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือ(MOU) ด้านการท่องเที่ยว ไทย-กัมพูชา และระดับพหุภาคี เช่น ขับเคลื่อนโครงการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS : Greater Mekong Subregion) กับยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง ระหว่าง 5 ประเทศ ทั้งกัมพูชา สปป.ลาว เมียนมาร์ ไทย และเวียดนาม (Ayeyawady – Chao Phraya – Mekong Economic Cooperation Strategy: ACMECS)
โดยทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความเห็นและมุมมองเกี่ยวกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวจุดหมายปลายทางเดียวกัน(One Destination) เห็นชอบร่วมกันส่งเสริมการเดินทางข้ามแดนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะทางบกผ่านช่องทางการอำนวยความสะดวกเดินทางข้ามพรมแดนระหว่างกัน รวมทั้งส่งเสริมการเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาค ขณะนี้ทางฝ่ายไทยจะผลักดันโครงการ “Drive Tourism” ร่วมกับอาเซียน 4 ประเทศ คือ กัมพูชา สปป.ลาว เวียดนาม มาเลเซีย เพราะที่ผ่านมาไทยได้ศึกษาแล้วหลายเส้นทาง สามารถช่วยเพิ่มนักท่องเที่ยวเดินทางทั้งภายใน (Intra regional) และภายนอก(Interregional) แล้วยังได้ยกระดับการท่องเที่ยวในอาเซียนเชื่อมโยงกันได้เหมือนกับภูมิภาคยุโรป จึงจะนำเรื่องนี้มาพิจารณาบูรณาการดำเนินงานร่วมกันต่อไปในอนาคตด้วย -เรื่องโดย เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน
