ททท.เพิ่มรายได้ปี 67 ขาย 2 บิ๊กอีเวนต์ ตรุษจีน-สงกรานต์

ททท.ติดเทอร์โบท่องเที่ยวปี’67 ขานรับ 4 นโยบายใหญ่ “เพิ่มรายได้ 55 เมืองรอง โหมขาย 2 บิ๊กอีเวนต์แห่งปี “ตรุษจีน” ตลอด ก.พ. มหาสงกรานต์ World Water Festival เม.ย.67

  • ททท.ทำแผนปี’67ใช้ 3 ส่วนเพิ่มรายได้ Airlines Focus
  • บริหารความเสี่ยงเพิ่มทัวร์คุณภาพ -บูมซอฟท์ เพาเวอร์
  • ขานรับนโยบายจับมือโรงแรม เอกชน ทำโปรแรง อัดฉีดจัดอีเวนต์ซอฟท์ เพาเวอร์ ตลอดปี

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท. เร่งเดินหน้านำอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศทำรายได้รวม 3.0 ล้านล้านบาท จากตลาดต่างประเทศ 1.9-2 ล้านล้านบาทจำนวนนักท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า 35 ล้านคน เติบโต 26.12% ส่วนตลาดในประเทศไม่น้อยกว่า 1 ล้านล้านบาทจำนวนนักท่องเที่ยวกว่า 200 ล้านคน-ครั้ง ขานรับนโยบายนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กับนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา 4 นโยบาย โดยนโยบายแรก ส่งเสริมการท่องเที่ยว 55 เมืองรอง ซึ่งรมว.สุดาวรรณ ได้นำคณะผู้บริหาร และผู้อำนวยการททท.ทั่วประเทศ เข้ารับนโยบายจากนายกรัฐมนตรีโดยตรงเมื่อกลางเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อกระตุ้น “ตลาดในประเทศ” ประกอบด้วย 4 แนวทางหลัก ได้แก่

แนวทางแรก ส่งเสริมการท่องเที่ยว 55 เมืองรอง ททท.จะใช้กลยุทธ์ Partnership 360 ทำงานร่วมกับพันธมิตรทุกกลุ่มทั้งเอกชนและหน่วยงานรัฐบาล ทั้งผู้เกี่ยวข้องทางตรงและทางอ้อมกับท่องเที่ยว 2.ส่งเสริมการลงทุนสร้างจุดขายใหม่ ๆ ทางวัฒนธรรมโดยเน้นเอกลักษณ์ท้องถิ่น เป็นทุนสำคัญทางวัฒนธรรม 3.ยกระดับคมนาคมสร้างการเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวทั่วไทย ททท.ทำงานร่วมกับกระทรวงคมนาคม กรมทางหลวงชนบท จะเสริมเส้นทางท่องเที่ยวใหม่เข้าสู่เมือง 4.ออกแบบกิจกรรมการท่องเที่ยว ควบคู่กับการพัฒนาสินค้าชุมชน ซึ่ง 3 กระทรวงหลัก ทั้งกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะเข้ามาช่วยบูรณาการอย่างเต็มที่

นโยบายที่ 2 ส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองไทยได้ทั้ง 365 วัน ตามที่นายกฯ กับรมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ย้ำเน้นถึงเมืองไทยจะต้องเป็นไฮซีซันเที่ยวได้ทุกวันโดยไม่มีโลว์ซีซัน ททท.จะใช้หลักคิดทำการตลาดด้วยอีเวนต์ ผ่านการพัฒนาเทศกาลงานประเพณีหลักของเมืองไทย ให้เกิดการกระจายทุกพื้นที่ทั่วประเทศครบ 365 วัน โดย ททท.จะทำงานอย่างเข้มแข็งกับทางคณะกรรมการซอฟท์เพาเวอร์ ทุกด้าน โดยเฉพาะด้านเฟสติวัล และกับกระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เพื่อผลักดันประเทศไทยเป็น Festival Hub ที่สำคัญในอนาคตอันใกล้นี้

นโยบายที่ 3 พัฒนาการสื่อสารเชื่อมต่อกับนักท่องเที่ยว ทั้งการเชิญชวนผู้นำแต่ละด้านทั้ผู้มีอิทธิพลสร้างกระแสการท่องเที่ยว Celebrity รวมถึงผู้แทนองค์กรชั้นนำ สมาคมต่าง ๆมาสร้างความเชื่อมั่นในประเทศไทย พร้อมกับให้ ททท.ออกแบบเส้นทางใหม่ เช่น เส้นทางแห่งความฝัน หรือ Dream Route ในเชิงโฆษณาประชาสัมพันธ์ แล้วสื่อสารผ่านเครือข่ายต่าง ๆ ในตลาด รวมถึงร่วมกับสื่อมวลชนเผยแพร่ข้อมูลไปยังตลาดต่างประเทศทั่วโลก เช่นเดียวกับที่ผ่านมาการจัดงานเคาท์ดาวน์มี CNN สื่อระดับโลก มาถ่ายทอดสด ทำให้ทั่วโลกได้เห็นความสวยงามวัดอรุณราชวรารามวรวิหารปรากฎสู่สายตาหลายร้อยล้านคน ถือเป็นส่วนหนึ่งในการสื่อสารประชาสัมพันธ์สื่อถึงเครือข่ายทั่วโลกได้

นโยบายที่ 4 กระตุ้นนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติใช้จ่ายเงินตลอดปี67 นายกฯมอบหมาย ททท.เร่งทำ 2 เรื่อง คือ ทำงานร่วมกับเอกชน เช่น สมาคมโรงแรมไทย ทำโปรโมชั่นห้องพัก ขยายวันพัก ด้วยการจัดงานเทศกาลแสง สี เสียง รวมถึงการขยายระยะเวลาพำนักของวีซ่านักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มคุณภาพกระตุ้นการใช้จ่ายเงินเพิ่มได้เป็นอย่างดี และพัฒนาสินค้าบริการการท่องเที่ยว ทำร่วมกับไทยแลนด์ ซอฟท์ เพาเวอร์ 11 อุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ แฟชั่น ศิลปะ อาหาร วัฒนธรรม และเฟสติวัลต่าง ๆ ควบคู่กับการยกระดับสินค้าชุมชนร่วมกับกระทรวงมหาดไทย

“ทั้ง 4 นโยบายเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะเพิ่มรายได้ให้เป็นไปตามเป้าหมายปี67 ททท.จะต้องนำมาแปลงให้เป็นความสำเร็จทั้งการเพิ่มรายได้กระจายทั่วประเทศ โดยเฉพาะแผนตลาดยกระดับการท่องเที่ยว 55 เมืองรอง ต้องนำสินค้าซอฟท์ เพาเวอร์ ไปสร้างจุดขายเพิ่มรายได้ทันที สินค้าแรกที่จะทำได้เลยคืออาหารมิชลินผนวกอาหารถิ่น สถิติปี66 เมืองรองมีรายได้และวันพักเฉลี่ยเพิ่มสูงกว่าปี65 และปี67 จะนำร่องทำโครงการ 10 เมืองรองสู่เมืองหลัก เพราะเมืองหลักจะมีเกณฑ์คือต้องเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวให้ได้ปีละ 4 ล้านคน/จังหวัด”

โดยจะคัดเลือกไฮไลต์ท่องเที่ยวงานเทศกาลแต่ละเดือน ได้แก่ เทศกาลแรก “ตรุษจีน” เดือนก.พ. นี้ จะพิจารณาพื้นที่เมืองรองที่จัดตรุษจีนมีชื่อเสียงติดตลาดมีชาวจีนนิยมเดินทางไปเที่ยว เช่น ราชบุรี นครสวรรค์ และจังหวัดอื่น ๆเทศกาล 2 มหาสงกรานต์ World Water Festival ปี67 จะจัดยิ่งใหญ่ซึ่งไทยได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกจากยูเนสโก ผลักดันให้การท่องเที่ยวเมืองรองขยายตัวมีรายได้เพิ่มขึ้น

ปี67 หน่วยงานพันธมิตรจะเป็นส่วนสำคัญอย่างมากกับการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ โดยเฉพาะเอกชนจะสามารถช่วยทำให้รายได้ไปถึงเป้าหมาย จึงให้น้ำหนักการจับมือกับสายการบินนานาชาติ เพื่อเพิ่มจำนวนที่นั่งผู้โดยสารเที่ยวบินจากแต่ละตลาดมายังไทย และร่วมกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวฝั่ง supply side ในประเทศ ทำโปรโมชั่นร่วมกัน เช่น เครือข่ายโทรศัพท์มือถือ สมาคมผู้ประกอบการเกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ การค้าการท่องเที่ยว และสมาคมท่องเที่ยวต่างๆ หรือแม้แต่ค่ายรถยนต์ ซึ่งล้วนอยู่ในห่วงโซ่อุปทานที่จะทำงานกับ ททท. แล้วยังได้ทำ MOU กับอีกหลายภาคส่วนมากขึ้นต่อไป รวมทั้งการให้ความสำคัญกับการเข้าสู่ “โลกดิจิทัล” เพิ่มมากขึ้น เทรนด์ใหม่คือ AI Marketing ผนวกกับดูแลโซเชียล มีเดียว ไว้ให้ได้มากที่สุด รักษาศักยภาพไว้ให้อยู่ในระดับแถวหน้าของตลาดท่องเที่ยวระดับนานาชาติ ไปพร้อมกับกระตุ้นท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน -เรื่องโดย เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน