เปิดพยากรณ์ท่องเที่ยวปี67 “มิลเลนเนียล-AI” ครองโลก

เปิดคำพยากรณ์ท่องเที่ยวปีมะโรง 2567 “ททท.-วีซ่าอินเตอร์- BBIK/บลูบิค” ชี้เป้าตลาดมาแรง “มิลเลนเนียล”หรือคนรวยไทยและต่างชาติใช้เงินได้ไม่อั้น เทรนด์อื่นต้องหลบให้ตลาดยุคใหม่ “AI กับ ESG”

  • เปิดคำทำนายท่องเที่ยวปีมะโรง 3 ค่าย ฟันธงมิเลนเนียลคนรวย “ไทย-ต่างชาติ” ใช้เงินสะพัด
  • จีนเที่ยวไทยมาน้อยจ่ายหนักเฉียด 100,000 บาท/คน/ทริป
  • แนะธุรกิจปรับตัวด่วนเทรนด์ AI กับ ESG ครองโลก

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.จัดทำผลศึกษาพฤติกรรมนักท่องเที่ยวปี 2567 โดยได้พบเทรนด์ “มิลเลเนียลหรือคนรวย” เป็นทั้งตลาดความหวังศักยภาพสูงและกลุ่มเป้าหมายเชิงคุณภาพที่มีความพร้อมทุกอย่างหลังสถานการณ์สิ้นสุดโควิดลง จึงขอความร่วมมือและการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนร่วมกับรัฐบาลขับเคลื่อนเป้าหมายเชิงนโยบายสร้างรายได้ท่องเที่ยวเข้าประเทศปี 2567 ให้ได้ถึง 3.5 ล้านล้านบาท โดยใช้ฐานตลาดมิลเลนเนียลคนไทยและทั่วโลกซึ่งจะเป็นผู้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ 5 เทรนด์ ได้แก่

เทรนด์ที่ 1 Inspiration หาที่เที่ยว โดยเลือกพึ่งพาแพลตฟอร์มออนไลน์ โซเชียลมีเดีย และที่ปรึกษาทางการท่องเที่ยว กับผู้มีอิทธิพล หรือInfluencer จะมีบทบาทมากขึ้นในฐานะผู้ให้ข้อมูลและสร้างแรงบันดาลใจที่น่าเชื่อถือมีรสนิยมดี

เทรนด์ที่ 2 Accommodation หาที่พัก ธุรกิจต้องปรับให้สอดรับกับความต้องการนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้พากันมองหมาที่พักแนวใหม่ ๆ เช่น Vacation Home หรือ ห้องเช่าระยะสั้น/ระยะยาว (Short-term / Long-term Rental)

เทรนด์ที่ 3 Transportation หาพาหนะเดินทาง การเช่าพาหนะส่วนตัวมาแรง เช่น รถ เรือยอร์ช พร้อมบอกลารถทัวร์ รถบัส ที่ต้องพบปะผู้คนจำนวนมาก

เทรนด์ที่ 4 Activity & Event หากิจกรรมทำ ธุรกิจบริการและสินค้าทางการท่องเที่ยวในรูปแบบต่าง ๆ ควรปรับเข้าสู่โหมดออนไลน์มากขึ้น เช่น ทัวร์เสมือนจริง/Virtual Tour กับสัมมนาออนไลน์/Virtual Event ต้องมีไว้รองรับ

เทรนด์ที่ 5 Business Strategy หารูปแบบการเดินทางมิติใหม่ที่น่าสนใจ เช่น เลือกท่องเที่ยวโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม/Regenerative Tourism การท่องเที่ยวเชิงอาหาร/Gastronomy การท่องเที่ยวชุมชน/CBT การท่องเที่ยวหรูหรามีสไตล์ /Lavish&Luxury ดังนั้นผู้ประกอบการต้องทำธุรกิจด้วยวิธีลงลึกตามเซกเมนต์ตลาดอย่างหลากหลายมากขึ้นแล้วก็สร้างจุดขายที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวขึ้นมา

ทางด้าน Visa Global Travel Intentions Study 2023 ในฐานะผู้นำการให้บริการชำระเงินดิจิทัลระดับโลก ได้ประกาศผลสำรวจปี 2023 ถึงพฤติกรรมและเทรนด์การท่องเที่ยว โดยมีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ “พฤติกรรมและแผนการเดินทางของผู้บริโภค”คนไทยและต่างชาติวางแผนและความต้องการเดินทางอีก 12 เดือนข้างหน้า

ปี 2567 คนไทยวางแผนจะเดินทางท่องเที่ยวเฉลี่ย 2.4 ทริป จุดหมายปลายทางหลักที่เลือกได้แก่ 1.ท่องเที่ยวซ้ำตามแหล่งท่องเที่ยวที่เคยไปมาแล้ว 46% และ 2.สถานที่ท่องเที่ยวใหม่ ๆ มีประมาณ 54%

โดยมี “แรงกระตุ้นนักท่องเที่ยว” คนไทย 67% เน้นเดินทางท่องเที่ยวเพื่อผ่อนคลายเป็นแรงจูงใจหลัก ต่อด้วยชอปปิ้ง 41% เปิดประสบการณ์และเรียนรู้สิ่งใหม่ 37% เที่ยวเพื่อเป็นรางวัลชีวิต 26% และต้องการออกผจญภัย 25%

เลือก “วิธีชำระเงิน” ด้วยระบบดิจิทัลจะได้การยอมรับเป็นวงกว้างเพราะสะดวกและปลอดภัยกว่า คนไทยหันมานิยมจ่ายผ่านบัตรแทนเงินสดเพิ่มขึ้น โพลล์ย้ำชัดคนไทยใช้บัตรจองที่พักล่วงหน้า 78% ค่าตั๋วเครื่องบิน 62% ระหว่างทริปจะใช้บัตรแทนเงินสด รับประทานอาหาร และทำกิจกรรมต่าง ๆ ด้วย

สำหรับ “นักท่องเที่ยวต่างชาติ” ปี 2567 ตลอด 12 เดือนข้างหน้า ตั้งใจจะกลับมาเที่ยวเมืองไทยซ้ำ ตลาดแรก“มาเลเซีย” มีแนวโน้มจะกลับมาไทยมากสุดถึง 42% รองลงไปอีก 4 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ 41% ฟิลิปปินส์ 28% สาธารณรัฐประชาชนจีน 25% เวียดนาม 22%

เหตุผล ที่เลือกมาไทย อันดับ 1 เพื่อผ่อนคลาย กับชอบชอปปิ้ง ผนวกเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ พบปะครอบครัวและเพื่อนฝูง จุดหมายปลายทางยอดนิยม ได้แก่ กรุงเทพฯ ภูเก็ต และพัทยา

วีซ่า อินเตอร์ แสดงผลสำรวจปี 2566 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติทั่วโลกเดินทางมาไทยมากที่สุด 7 กลุ่มหลัก ต่อเนื่องถึงปี 2567 ประกอบด้วย

กลุ่มที่ 1 มิลเลนเนียลคนรวยมากถึง 51% กลุ่มที่ 2 นักท่องเที่ยวที่มีกำลังใช้จ่ายสูง 27% กลุ่มที่ 3 ครอบครัวเดินทางพร้อมกับเด็กเล็ก 18% กลุ่มที่ 4 คนโสดวัยหนุ่มสาว 16% กลุ่มที่ 5 Gen Z 15% กลุ่มที่ 6 ครอบครัวที่เดินทางกับเด็กโต 14% กลุ่มที่ 7 วัยเกษียณ 11%

ระยะเวลาต่างชาติพพำนักในไทย -เฉลี่ย 8 คืน/คน/ทริป โดยมีกลุ่มวัยเกษียณพำนักอยู่ในไทยนานที่สุดเฉลี่ยมากถึง12 คืน/คน/ทริป แบ่งตามเชื้อชาติ อันดับ 1 สิงคโปร์พักนานที่สุด 7 คืน/คน/ทริป ตามมาด้วย สาธารณรัฐประชาชนจีนกับเวียดนาม 5 คืน/คน/ทริป มาเลเซียกับฟิลิปปินส์เฉลี่ย 4 คืน/คน/ทริป

“การใช้จ่ายเงินท่องเที่ยว” ของนักท่องเที่ยวต่างชาติในไทยต่อคนต่อทริป พบว่า อันดับ 1 นักท่องเที่ยวจีนใช้จ่ายสูงที่สุดเฉลี่ย 95,000 บาท อันดับ 2 สิงคโปร์ 58,000 บาท อันดับ 3 ฟิลิปปินส์ 48,000 บาท อันดับ 4 เวียดนาม 38,000 บาท อันดับ 5 มาเลเซีย 34,000 บาท

สำหรับ “ยอดใช้เงินของท่องเที่ยวทั้งหมด” จะแตกต่างกันไปตามระยะเวลาการเดินทาง และการเลือกวิธีชำระผ่านบัตรแทนเงินสด ตั้งแต่การจองที่พัก ซื้อตั๋วเครื่องบิน ใช้ซื้อสินค้า รับประทานอาหาร ทำกิจกรรมต่าง ๆ

ขณะที่ “BBIK หรือ บลูบิค” ที่ปรึกษาชั้นนำและผู้ให้บริการด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นครบวงจร ได้นำเสนอเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่ผู้ประกอบการไทยต้องรู้ปัจจัยกำหนดทิศทางเศรษฐกิจ 3 ปีข้างหน้า เริ่มปี 2567 เป็นต้นไปจะเป็นยุคTech Capabilities ก่อให้เกิดการเปลี่ยนโลกด้วย 3 ตัวแปร ประกอบด้วย 1.ธุรกิจไร้พรมแดนนำมาซึ่งโอกาส ความเสี่ยง และการแข่งขันที่รุนแรงใน Digital Landscape 2.ไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมการใช้จ่ายที่แตกต่างกันของผู้บริโภคแต่ละช่วงวัย 3.การทำงานแบบ Gig Worker ที่รับค่าตอบแทนตามจำนวนงานที่ทำ

ดังนั้นธุรกิจจึงจำเป็นต้อง “เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันอย่างเข้มข้น” เพื่อให้ผู้ประกอบการลองศึกษาและประยุกต์ใช้พัฒนาธุรกิจให้สอดคล้องกับทิศทางของ Tech Capabilities 7 เทรนด์ คือ

1.Democratization of Generative AI (Gen AI) : AI เพื่อศึกษาข้อมูลเชิงประชากร

2. Multiexperience (MX) : ผสานประสบการณ์ซื้อสินค้าและบริการด้วยเทคโนโลยีครบวงจร

3. Event-Driven Nano Architecture (EDNA) : เทคโนโลยีเพื่อสร้าง Digital Ecosystem ที่เข้มแข็ง

4. Generative Cybersecurity AI : เทคโนโลยีที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการใช้งาน Generative AI

5. AI-Enhance Security Operations : เทคโนโลยีหลังบ้านเพื่อป้องกันจากโจมตีทางไซเบอร์ และแก้ไขปัญหาอย่างทันท่วงที

6. AI for Sustainability : ปรับปรุงระบบการดำเนินงานและจัดการกระบวนการที่เป็นอุปสรรคต่อการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการปล่อยคาร์บอน

7. ESG Management and Reporting : ระบบบริหารจัดการช่วยเหลือเรื่องการรับมือกับแรงกดดันในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม

ด้วยปัญหาทางเศรษฐกิจะแรงกดดันจาก ESG หรือ สิ่งแวดล้อม/Environmental สังคม/Social และการมีธรรมาภิบาล/Corporate Governance ผนวกเข้ากับความเสี่ยงจากเทคโนโลยี เช่น จริยธรรมของปัญญาประดิษฐ์ ภัยคุกคามไซเบอร์ ทำให้องค์กรต้องเร่งยกระดับขีดความสามารถของตนเองอย่างรวดเร็ว เพื่อก้าวข้ามอุปสรรคไปสู่ยืนอยู่แถวหน้านำพาการท่องเที่ยวของไทยก้าวสู่เป้าหมายความเร็จเชิงเศรษฐกิจได้อย่างแน่นอน -เรื่องโดย เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน