ครม.อนุมัติ13โครงการ“ท่องเที่ยว-สนามบิน”ฉลุย300ล้าน

นายกฯลั่นครม.สัญจรภาคเหนืออนุมัติแล้ว 13 โครงการ 300 ล้านบาทสั่งกระทรวงท่องเที่ยวฯเร่งเปิดสำนักงานททท.ไตรมาส 4 ปี67 มอบกระทรวงคมนาคมลุยแผนสร้างสนามบินพะเยาและสั่งเดินหน้าชุดใหญ่อีก 5 เรื่อง

  • ภาคเหนือตอนบนพะเยาเฮครม.ผ่านฉลุย 13 โครงการท่องเที่ยวสนามบิน
  • ปรับแผนผลิตลำไยเลิกนำเข้าข้าวโพดจากประเทศเพื่อนบ้านที่เผาเพิ่มฝุ่นควันพิษ  

นายเศรษฐาทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร ที่หอประชุมพญางำเมือง มหาวิทยาลัยพะเยา อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา ระหว่างวันที่ 18 – 19 มีนาคม 2567 โดยที่ประชุม ครม.เห็นชอบอนุมัติรวม 13 โครงการ วงเงินรวม 300 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 รวม 9 โครงการ วงเงิน 155 ล้านบาท และ 2.โครงการของภาคีเครือข่ายของภาคเอกชนคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) อีก 4 โครงการ วงเงิน 145 ล้านบาท มอบหมาย 2 กระทรวงหลัก คือ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ขอให้เร่งเปิดสำนักงานการท่องเที่ยวพะเยา ให้ได้ภายในไตรมาส 4 ปี 2567 พร้อมทั้งศึกษาประกาศให้เป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และมอบหมายกระทรวงคมนาคม ศึกษาความเป็นไปได้การก่อสร้างสนามบินพะเยา  

นายกฯ เศรษฐา ยังได้สั่งการเร่งดำเนินการอีก 5 เรื่อง ประกอบด้วย เรื่องที่ 1 ให้กรมทางหลวง เร่งประสานกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ทำเรื่องขอผ่อนมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการขยายเส้นทางจราจรบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านฮวก จังหวัดพะเยา เรื่องที่ 2 การใช้ประโยชน์ในพื้นที่คุณภาพลุ่มน้ำชั้น 1A เพื่อส่งเสริมการค้าชายแดนระหว่าง ไทย-ลาว ปัจจุบันมียอดสั่งซื้อวัวหลายแสนตัว 

เรื่องที่ 3 ขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานต่าง ๆ บูรณาการผลิตลำไยตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เพิ่มการผลิตให้สมดุลกับความต้องการตลาด และผลิตอย่างมีคุณภาพสูง ปลอดภัย ส่งเสริมผลิตภัณฑ์แปรรูปลำใยให้หลากหลายมากขึ้น จะทำให้ราคาลำไยมีประสิทธิภาพและไม่ล้นตลาด 

เรื่องที่ 4 สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับมาตรการลด หรือห้ามนำเข้าสินค้าเกษตรจากประเทศเพื่อนบ้าน ที่พิสูจน์ได้ว่ามีกระบวนการผลิตที่เกี่ยวข้องกับการเผานั้น ปัจจุบันไทยยังคงได้รับผลกระทบจากการเผาดังกล่าว จึงขอให้กระทรวงพาณิชย์ออกประกาศตามพระราชบัญญัติการส่งออกไปนอก และการนำเข้าในราชอาณาจักร เพื่อกำหนดนโยบายการนำเข้าข้าวโพดจากต่างประเทศ โดยเฉพาะช่วงไฮซีซั่น โดยขอให้เป็นไปตามข้อตกลง WTO ระหว่างประเทศด้วย ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญต้องให้ตรงกับพระราชบัญญัติอากาศสะอาดที่กำลังจะผ่านวาระของสภาฯ 

เรื่องที่ 5 ให้กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งศึกษาความเป็นไปได้การลงทุน และส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศไทยและกลุ่มประเทศแอฟริกา เช่น ไนจีเรีย ซิมบับเว เนื่องจากเป็นประเทศที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูง มีแหล่งทรัพยากรมาก และเป็นแหล่งพลังงาน -เรื่องโดย เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน