ท่องเที่ยวฟื้นแห่ตั้งบริษัทใหม่ พ.ย. เฉียด 6 พันราย

ท่องเที่ยวฟื้นแห่ตั้งบริษัทใหม่ พ.ย. เฉียด 6 พันรายทุนจดทะเบียนกว่า 2.5 หมื่นล้านบาท

  • เลิกกิจการกว่า 2.6 พันรายทุน 1.7 หมื่นล้าน
  • คาดทั้งปี 66 ตั้งบริษัทใหม่ได้แน่ 8.6 หมื่นราย

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า เดือน พ.ย.66 มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ทั่วประเทศ 5,979 ราย ลดลง 10% เมื่อเทียบเดือนต.ค.66 แต่เพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบเดือนพ.ย.65 มูลค่าทุนจดทะเบียน 25,272.84 ล้านบาท โดยประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รองลงมา คือ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป และธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร ส่วนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ 2,608 ราย เทียบเดือนต.ค.66 เพิ่ม 16% แต่เทียบเดือนพ.ย.65 ลด 3% มีมูลค่าทุนจดทะเบียนเลิก 17,374.03 ล้านบาท ธุรกิจที่เลิกสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร

สำหรับช่วง 11 เดือน (ม.ค.-พ.ย.) ปี 66 จดทะเบียนตั้งใหม่ 81,291 ราย เพิ่มขึ้น 12.16% ทุเทียบช่วงเดียวกันปี 65 ทุนจดทะเบียน 546,855.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.83% และเลิกกิจการ 17,858 ราย เพิ่มขึ้น 10.95% ทุนจดทะเบียน 107,728.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.62%

สาเหตุการจดทะเบียนที่สูงขึ้น ยังคงได้รับแรงสนับสนุนจากการท่องเที่ยวเป็นหลัก สะท้อนจากธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง เช่น ธุรกิจตัวแทนการเดินทาง จดทะเบียนเพิ่มขึ้น 104% ธุรกิจจัดนำเที่ยว เพิ่ม 69.35% จากการจัดงานเทศกาลที่สำคัญในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ รวมทั้งธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร เพิ่ม36.34% ธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เพิ่ม 156% ธุรกิจโรงแรม รีสอร์ตและห้องชุด เพิ่ม 30.69%

นอกจากนี้ ยังมาจากปัจจัยการเปลี่ยนแปลงในภาคอุตสาหกรรมและภาคธุรกิจ ส่งผลให้หลายธุรกิจมีการเติบโตที่สูงและน่าจับตามอง เช่น ธุรกิจขายส่งข้าวเปลือกและธัญพืช เพิ่ม 158% จากการส่งเสริมนโยบาย BCG Model เช่น การสนับสนุนต้นทุนการผลิตข้าวรักษ์โลก ธุรกิจผลิตแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ เพิ่ม 220% จากความต้องการในกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า และกลุ่มสินค้าเทคโนโลยี รวมทั้งธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เพิ่ม 18.95% จากรูปแบบช่องทางการซื้อขายสินค้าที่เปลี่ยนแปลงไป

“จากปัจจัยดังกล่าว กรมได้คาดการณ์ว่า ปี 66 จะมีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ 84,000–86,000 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียนจัดตั้ง 550,000–600,000 ล้านบาท โดยปัจจุบัน มีธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ทั้งสิ้น 892,001 ราย มูลค่าทุน 21.74 ล้านล้านบาท”