ททท.ยุโรปนำเอกชนใส่เกียร์ลุย ITB Berlin 2024 มหกรรมค้าขายท่องเที่ยวใหญ่สุดของโลกไทยโชว์พลัง 3 โปรเจกต์ปลุกเทรนด์ “เที่ยวยั่งยืน-55 เมืองรอง-TTM Plus 2024 พังงา” ปี’67 ดึงเงิน 4 ทวีปเข้าไทย 6.8 แสนล้าน
- ททท.ยึดเวที ITB Berlin 2024 เร่งกวาดตลาดยุโรปเข้าเป้า 2.9 ล้านคน
- โชว์โมเดลเที่ยวไทยไม่ตกเทรนด์โลก Sustainable Tourism
- ปี’67 หวังรายได้ “ยุโรป–ตะวันออกกลาง–อเมริกา–แอฟริกา” 6.8 แสนล้าน
นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.นำผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยเข้าร่วมมหกรรมซื้อขายท่องเที่ยวใหญ่สุดของโลก “ITB : International Travel Berlin 2024” ระหว่างวันที่ 5-7 มีนาคม 2567 ที่กรุงเบอร์ลิน สาธารณรัฐเยอรมัน วางแผนส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยกระตุ้นตลาดทั่วโลกเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะตลาดระยะไกล (long hual) 4 ทวีป คือ ยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา ปี 2567 มีเป้าหมายจะต้องรายได้เข้าประเทศประมาณ 6.8 แสนล้านบาท หรือ 35% นำเข้านักท่องเที่ยว 8.8 ล้านคน จาก ยุโรป 2,933,660 คน อเมริกา 620,474 คน ตะวันออกกลาง 231,206 คน แอฟริกา 45,663 คน พร้อมกับให้นักท่องเที่ยวใช้จ่ายเพิ่มเฉลี่ย 76,800 บาท/คน/ทริป จาก ยุโรป 71,718 บาท/คน/ทริป ตะวันออกกลาง 99,172 บาท/คน/ทริป อเมริกา 76,297 บาท/คน/ทริป และการเข้าร่วมเทรดโชว์ ITB Berlin 2024 ปีนี้ ททท.จะเดินหน้าทำเต็มที่ 3 โครงการ
โครงการแรก ดีไซน์คูหาประเทศไทยในฮอลล์ด้วยการนำเสนอจุดเด่นตอกย้ำเทรนด์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ Sustainable Tourism นำเสนอ 4 ส่วน ประกอบด้วย ส่วนที่ 1 ตกแต่งคูหาประเทศไทยจากโครงสร้างเดิมเน้นการใช้วัสดุซ้ำเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม ส่วนที่ 2 เติมเทคโนโลยีเข้ามาช่วยประหยัดพลังงาน ส่วนที่ 3 รับสมัครผู้ประกอบการไทยคัดเลือกธุรกิจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เข้าร่วมคาร์บอนเครดิต ดูแลชุมชนท้องถิ่น ส่วนที่ 4 จัดกิจกรรมเสริมเปิดพื้นที่ทำ “MINI MART” รูปแบบใหม่ขยายโอกาสอย่างเต็มที่โดยมอบหมายให้ ททท.สำนักงานยุโรปทั้ง 9 แห่ง เชิญประเทศรอบนอกที่ไม่ใช่เยอรมัน จะเป็น ออสเตรีย สวิสเซอร์แลนด์ และอื่น ๆ เข้ามาร่วมเจรจาซื้อการท่องเที่ยวกับเอกชนไทย
โครงการที่ 2 เสนอขายการท่องเที่ยว 55 เมืองรองของไทยกับคู่ค้าในตลาดโลก โดยนำร่องใชยุทธศาสตร์ MOVE บุกเบิกทำกลยุทธ์แรก Air Mazing Airlines Fam Trip ผนึกความร่วมมือกับพันธมิตร 12-15 สายการบินนานาชาติ ลงพื้นที่สำรวจในไทยระหว่าง 2-5 เมษายน 2567 พุ่งเป้าไปยัง 4 สนามบินนานาชาติ ได้แก่ เชียงใหม่ กระบี่ สุราษฎร์ธานี อู่ตะเภา โดยใช้โมเดลลักษณะเดียวกันกับกรุงเทพฯ มีท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กับดอนเมือง เป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างประเทศกระจายไปยังอีสานด้วยรถยนต์ผ่านมอเตอร์เวย์ ซึ่งเป็นการเดินทางแบบบินมาลงยังจุดหมายปลายแล้วขับรถไปท่องเที่ยวพื้นที่อื่น ๆ เรียกว่า Fly and Drive
เช่น นักท่องเที่ยวต่างชาติบินตรงมาลงท่าอากาศยานเชียงใหม่ แล้วนั่งรถไปเที่ยวต่อเมืองรองขยายไปยังพื้นที่ขาย เช่น ลำพูน ลำปาง ส่วนท่าอากาศยานอู่ตะเภาต่อไปยัง ระยอง ตราด หรือไปลงท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี ขับรถไปท่องเที่ยวต่อยังระนอง ลงท่าอากาศยานกระบี่ มีเส้นทางขับรถต่อไปยัง พัทลุง นครศรีธรรมราช
ททท.วางแผนทำคอนเซ็ปต์โดยจะต้องให้มีเที่ยวบินระหว่างประเทศจากต้นทาง เปิดบินตรงไปลงแต่ละสนามบินหลัก หรือเมืองท่องเที่ยวรอง ในแต่ละภาคก่อนแล้วจึงขยายการเดินทางทางบกเพื่อเพิ่มกระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองรองสะดวกสบายมากขึ้น ทาง ททท.นำเสนอแล้วในโบชัวร์แต่ละตลาดต่างประเทศปี 2567 เป็นต้นไป
โครงการที่ 3 ททท.จะเชิญชวนผู้ประกอบการท่องเที่ยวจากประเทศต่าง ๆ เข้าร่วมงาน Thailand Travel Mart Plus 2024 ที่จังหวัดพังงา จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 21 หรือก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 แล้ว ตลอดช่วง 20 ปีที่ผ่านมางานนี้เลือกจัดในพื้นที่กรุงเทพฯ พัทยา ชลบุรี หัวหิน/ประจวบคีรีขันธ์ ปี 2567 ได้มองหาพื้นที่ใหม่แถบภาคใต้เลือกจังหวัดพังงา เพื่อยกระดับตามคอนเซ็ปต์ “เสริมจุดแข็ง สร้างจุดขาย ภายใต้เสน่ห์อันดามัน”
งานนี้ ททท.ตั้งเป้าหมายจะเชิญตัวแทนผู้ซื้อจากทั่วโลกเข้าร่วมมากกว่าทุกปีประมาณ 420 ราย สื่อมวลชนในและต่างประเทศอีก 100 ราย มาร่วมพบเจรจากับตัวแทนผู้ขายในเมืองไทย 430 ราย สามารถสร้างจุดขายได้หลายมิติ เช่น ผนวกเส้นทางท่องเที่ยว เสนอสินค้าใหม่ และด้วยบรรยากาศสถานที่ท่องเที่ยวในอ้อมกอดธรรมชาติชายฝั่งทะเลอันดามัน โดยจะทำกิจกรรมควบคู่กันไปกับงานคือพาคณะต่างประเทศที่สนใจร่วมสำรวจพื้นที่ก่อนและหลัง Pre-Post Tour TTM Plus 2024 งานซื้อขายการท่องเที่ยวรายการใหญ่ที่คู่ค้ากลุ่มตัวแทนผู้ซื้อท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้ความสนใจเลือกเข้ามาร่วมเติบโตเพิ่มมากขึ้นทุกปี -เรื่องโดย เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน
