กรมทรัพย์สินทางปัญญา เผย “กางเกงช้าง” หนุนผู้ประกอบการไทยตื่นตัว สร้างสรรค์กางเกงลายใหม่ๆ ทั้ง กางเกงแมวโคราช กางเกงปลาแรดอุทัยธานี
- หลัง “กางเกงช้าง” จุดกระแสตื่นตัว
- กรมทรัพย์สินทางปัญญาแนะจดแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์
- ป้องกันคนฉวยละเมิด-เป็นหลักฐานอ้างสิทธิ์เป็นเจ้าของ
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า จากการที่กรมได้ลงพื้นที่สำรวจการจำหน่ายกางเกงลายช้างในย่านการสำคัญ ได้แก่ สำเพ็ง โบ๊เบ๊ ประตูน้ำ MBK และแพลตินั่ม พบว่า บรรยากาศการจำหน่ายคึกคัก และกระแสข่าวที่ว่า มีการนำเข้ากางเกงช้างจากจีนเข้ามาขายในไทยนั้น ไม่ได้สร้างความกังวลให้กับผู้ประกอบการไทย แต่กลับยิ่งทำให้ขายดีมากขึ้น เพราะสินค้าไทยมีคุณภาพดีกว่า เนื้อผ้าดีกว่า การตัดเย็บปรานีต อีกทั้ง ผู้ประกอบการในหลายจังหวัดตื่นตัวสร้างสรรค์และผลิตกางเกงลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น โดยนำสัญลักษณ์ของแต่ละจังหวัดมาพัฒนาต่อยอดเป็นสินค้า สร้างรายได้เข้าสู่จังหวัด เช่น กางเกงแมวโคราช กางเกงปลาแรดอุทัยธานี กางเกงไก่ชนพิษณุโลก กางเกงลายหอยประจวบคีรีขันธ์ เป็นต้น
“จากการลงพื้นที่ ได้ขอให้ผู้ค้า ให้ความสำคัญกับแหล่งที่มาของสินค้า เพื่อป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ แต่หากเป็นกางเกงช้าง ที่ไม่ได้ลอกเลียนแบบใคร สร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ก็จะได้รับความคุ้มครอง ใครจะละเมิดไม่ได้ และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้วย ส่วนผู้ผลิตกางเกงลายอื่นๆ ควรนำลวดลายที่ออกแบบไว้มาแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์กับกรม เพื่อใช้เป็นหลักฐานดำเนินการทางกฎหมาย หากพบการละเมิดลิขสิทธิ์ รวมทั้งใช้เป็นหลักฐานแสดงความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในการเจรจาขยายโอกาสทางการค้าได้อีก”
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการ ควรสร้างแบรนด์สินค้าของตนเอง เพื่อใช้โปรโมตสินค้าให้ผู้บริโภคจดจำแยกแยะได้สะดวกมากขึ้น และที่สำคัญต้องมาจดเครื่องหมายการค้ากับกรม เพื่อต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่ม และป้องกันการละเมิดด้วย
