ดาวโจนส์ซึมปิดลบ 9 จุด รอลุ้นเฟ้อ-ผลประกอบการไตรมาสแรก

  • นักลงทุนกังวลเงินเฟ้อสูงนานกว่าคาด ชะลอคำสั่งซื้อขาย
  • ตลาดรอการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันนี้
  • Fed Watch Tool ชี้ไม่มั่นใจเดือนมิ.ย.เฟดเริ่มลดดอกเบี้ยครั้งแรก

บรรยากาศการซื้อขายหุ้นในตลาดหุ้นสหรัฐฯไม่คึกคัก นักลงทุนรอการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ เพื่อหาทิศทางดอกเบี้ย และรายงานผลประกอบการของธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐซึ่งรวมถึงเจพีมอร์แกน ในวันศุกร์นี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 9 เม.ย.ที่ 38,883.67 จุด ลดลง 9.13 จุด หรือ -0.02%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,209.91 จุด เพิ่มขึ้น 7.52 จุด หรือ +0.14% และดัชนี Nแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 16,306.64 จุดเพิ่มขึ้น 52.68 จุด หรือ +0.32%

นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันนี้ ท่ามกลางความวิตกกังวลว่าดัชนี CPI อาจส่งสัญญาณว่าเงินเฟ้อของสหรัฐยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งจะส่งให้เฟดไม่ลดดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนมิ.ย.ตามที่คาดไว้

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI ทั่วไป (Headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 3.4% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากปรับตัวขึ้น 3.2% ในเดือนก.พ. และคาดว่าดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 3.7% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่ปรับตัวขึ้น 3.8% ในเดือนก.พ.

ล่าสุด นักลงทุนให้น้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. มากกว่าน้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนดังกล่าว โดยFedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 48.6% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 11-12 มิ.ย. หลังจากที่ให้น้ำหนัก 61.5% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม มีแรงซ้อหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มสาธารณูปโภค โเยดัชนีปรับตัวขึ้น 1.29% และ 0.55% ตามลำดับ ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มการเงินและกลุ่มอุตสาหกรรม ปรับตัวลง 0.50% และ 0.22% ตามลำดับ

หุ้นโมเดอร์นา พุ่งขึ้น 6.2% หลังจากมีรายงานว่าวัคซีนป้องกันโรคมะเร็งที่โมเดอร์นาพัฒนาร่วมกับบริษัทเมอร์คแอนด์ โคนั้น ให้ผลเป็นที่น่าพอใจในการทดลองเบื้องต้น

ขณะที่หุ้นบริษัทที่ให้บริการแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีร่วงลงตามทิศทางราคาบิตคอยน์ นำโดยหุ้นคอยน์เบส โกลบอล (Coinbase Global) ร่วงลง 5.5% และหุ้นไมโครสตราเทจี (MicroStrategy) ปรับตัวลง 4.8%

ทั้งนี้ นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 1/2567 ของธนาคารรายใหญ่ในวันศุกร์นี้อย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะเจพีมอร์แกน, เวลส์ ฟาร์โก และซิตี้กรุ๊ป

แอลเอสอีจี (LSEG) เปิดเผยผลสำรวจระบุว่า นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าผลประกอบการไตรมาส 1 ของบริษัทในดัชนี S&P500 จะเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งลดลงจากระดับ 7.2% ในการสำรวจก่อนหน้านี้

ด้านภาพรวมเศรษฐกิจ สหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB) รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมร่วงลงสู่ระดับ 88.5 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2555 และเป็นการปรับตัวต่ำกว่าระดับ 98 ซึ่งเป็นระดับเฉลี่ยในรอบ 50 ปี เป็นเดือนที่ 27 ติดต่อกัน โดยได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ และการขาดแคลนแรงงาน