“พีระพันธุ์” เผย ครม.เห็นชอบปรับลดภาษีสรรพสามิตเบนซิน1บาท

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

“พีระพันธุ์” เผย ครม.เห็นชอบปรับลดภาษีสรรพสามิตเบนซิน1บาท ทั้งเบนซินแก๊สโซฮอล์ 95 และเบนซินแก๊สโซฮอล์ 91 รวม 3 เดือน มีผลตั้งแต่ 7 พ.ย. 66

  • กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะไปบริหารจัดการเพิ่มอีก 1.50 บาทต่อลิตร
  • ให้เป็น 2.50 บาทต่อลิตรตามที่ได้เสนอไว้
  • กรมสรรพสามิตจะสูญเสียรายได้จากการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตสินค้าน้ำมัน
  • และผลิตภัณฑ์น้ำมัน ประมาณ 2,700 ล้านบาท

วันนี้ (31 ตุลาคม 2566) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ครม.รับทราบแนวทางการปรับลดราคาน้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอล์  ซึ่งจะต้องได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงการคลังในเรื่อง การปรับลดภาษีสรรพสามิต ซึ่งแต่เดิม กระทรวงพลังงานได้เสนอแนวทางการปรับลดราคาน้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอล์ต่อที่ประชุมครม.เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเสนอว่าจะปรับลดราคาน้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอล์ 91 ลง 2.50 บาทต่อลิตร

แต่หลังจากที่ได้ไปทำงานเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้รับทราบจากกระทรวงการคลังว่า ภาษีสรรพสามิตไม่ได้แบ่งแยกสำหรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 กับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 โดยเป็นอัตราเดียวกัน ถ้าลดราคาก็ต้องลดหมด ไม่ได้แยก ซึ่งกระทรวงการคลังเห็นว่าไม่สามารถที่จะปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตลง 2.50 บาทต่อลิตรสำหรับน้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอล์ทุกประเภทได้ จึงได้หาทางออกร่วมกัน

ฉะนั้น จึงได้เสนอการปรับอัตราภาษีสรรพสามิตสำหรับน้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอล์ทั้ง 91 และ 95 ลงในอัตรา 1 บาทต่อลิตรเท่ากัน ซึ่งในส่วนของเบนซินแก๊สโซฮอล์ 91 ทางกระทรวงพลังงานโดยกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะไปบริหารจัดการเพิ่มอีก 1.50 บาทต่อลิตร ให้เป็น 2.50 บาทต่อลิตรตามที่ได้เสนอไว้ ฉะนั้นส่วนที่ได้เพิ่มเติมมาคือแก๊สโซฮอล์ 95 ทั้งนี้ ที่ประชุมครม.โดยกระทรวงการคลังเสนอว่า ให้กระทรวงพลังงานไปบริหารจัดการเรื่องกองทุนน้ำมันต่อไป ซึ่งตนจะรับไปดำเนินการในส่วนที่จะทำให้เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนได้มากที่สุด

“การลดราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ที่เสนอวันนี้ มีผลตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นไป รวมเป็นเวลา 3 เดือน สำหรับการเริ่มลดราคาตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน เป็นต้นไปนั้น เพื่อให้ผู้ค้าน้ำมันได้มีเวลาในการปรับสต็อกน้ำมันด้วย ทั้งนี้ ในส่วนของแก๊สโซฮอล์ 91 ที่กระทรวงพลังงานโดยกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงต้องไปบริหารจัดการเพิ่มอีก 1.50 บาทต่อลิตร นั้น จะพยายามทำให้ทันวันที่ 7 พฤศจิกายน” นายพีระพันธุ์ กล่าว

อย่างไรก็ตามทางกรมสรรพสามิต ได้ประเมินประโยชน์และผลกระทบ โดยระบุว่า

การลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันเบนซิน จะช่วยลดค่าครองชีพด้านการเดินทางของประชาชน และเมื่อรวมกับมาตรการช่วยเหลือภาครัฐด้านอื่นก็จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนลงได้ รวมทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศมากขึ้น

ทั้งนี้ กรมสรรพสามิตจะสูญเสียรายได้จากการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตสินค้าน้ำมัน และผลิตภัณฑ์น้ำมัน ประมาณ 2,700 ล้านบาท (คาดการณ์จากสถิติปริมาณการเสียภาษีในปีงบประมาณ 2566 ทั้งนี้ การลดอัตราภาษีน้ำมันเบนซิน 1 บาทต่อลิตร จะสูญเสียรายได้ประมาณ 900 ล้านบาทต่อเดือน ดังนั้น การลดอัตราภาษีลง 1 บาทต่อลิตร เป็นระยะเวลา 3 เดือน จะส่งผลให้สูญเสียรายได้ภาษี ประมาณ 2,700 ล้านบาท)