ส.ป.ก.ไม่ไว้หน้าแจ้งผู้ว่าฯทั่วประเทศปูพรมสอบเอกสารสิทธิ์กันใหม่

ส.ป.ก.ไม่ไว้หน้าแจ้งผู้ว่าฯทั่วประเทศปูพรมสอบเอกสารสิทธิ์กันใหม่ ติดประกาศรายชื่อผู้ถือครองให้ชาวบ้านตรวจสอบซ้ำ แจ้งคนทำผิดผ่านส.ป.ก.ในพื้นที่หรือเว็บไซต์ส่วนกลาง

  • เลขาธิการส.ป.ก.ลั่น ทุกขั้นตอนให้เป็นไปตามกฎหมายในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
  • ไม่ว่าจะเป็นที่ภูเก็ต หรือ เขาใหญ่ก็ตาม
  • ไม่คิดโต้เถียงกับหน่วยงานอื่น ยึดหลักฐานข้อเท็จจริงและกฎหมายเป็นหลัก

นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม(ส.ป.ก.)​กล่าวว่า เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2567 ส.ป.ก.ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด เรื่องแนวทางการตรวจสอบคุณสมบัติและการใช้ประโยชน์ในที่ดินของผู้ได้รับการจัดที่ดิน และผู้ถือครองที่ดินโดยมิชอบตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

ในหนังสือดังกล่าว ทางส.ป.ก ขอให้จังหวัดมอบหมายสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดดำเนินการดังนี้ ประการแรกให้ปิดประกาศรายชื่อเกษตรกรผู้ได้รับการจัดที่ดินทุกรายในเขตที่ดินที่ตั้งอยู่ในท้องที่นั้นๆ ประการที่สอง แต่งตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบคุณสมบัติและการใช้ประโยชน์ในที่ดินของผู้ได้รับการจัดที่ดินและผู้ถือครองที่ดินโดยมิชอบตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

สำหรับ การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบคุณสมบัติและการใช้ประโยชน์ที่ดินของผู้ได้รับการจัดสรรที่ดินและผู้ถือครองที่ดินโดยมิชอบตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมมีองค์ประกอบและหน้าที่ดังนี้

องค์ประกอบมีนายอำเภอเป็นประธานอนุกรรมการ ส่วนอนุกรรมการประกอบด้วยผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรที่ที่ดินตั้งอยู่, ผู้จัดการธ.ก.ส., นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหรือนายกเทศมนตรี, เกษตรอำเภอ, ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด หรือผู้แทนสำนักงานที่ดินจังหวัดสาขา, ผู้แทนสภาเกษตรกรอำเภอ, เกษตรตำบล, กำนันผู้ใหญ่บ้าน, อาสาสมัครปฏิรูปที่ดินหรืออาสาสมัครเกษตร, ผู้อำนวยการกลุ่มกฎหมาย,ผู้อำนวยการกลุ่มยุทธศาสตร์และปฏิรูปที่ดินเป็นอนุกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ

อำนาจหน้าที่ประกอบด้วย ตรวจสอบคุณสมบัติผู้ได้รับการจัดที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินตรวจสอบการใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินโดยมิชอบด้วยกฎหมายพิจารณาให้ความเห็นเกี่ยวกับการตรวจสอบเพื่อมอบหมายให้ส.ป.ก.พิจารณาดำเนินการต่อไป รายงานผลปัญหาอุปสรรคพร้อมทั้งเสนอแนวทางการให้ความเห็นในการแก้ไขปัญหาแต่ละกรณีและปฏิบัติงานอื่นๆตามที่ได้รับมอบหมาย

อย่างไรก็ตาม หากตรวจสอบพบว่าเกษตรกรผู้ได้รับมอบที่ดินรายใดได้เสียชีวิตลงและทายาทยังไม่ดำเนินการขอรับการจัดที่ดินแทนที่ หรือขาดคุณสมบัติความเป็นเกษตรกร ตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ภายหลังจากการรับมอบที่ดิน ประชาชน และเกษตรกรอยู่อาศัย ในพื้นที่สามารถแจ้งข้อมูลผู้กระทำความผิด พร้อมข้อมูลและช่องทางการติดต่อกลับของผู้แจ้งข้อมูล ได้ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันประกาศเป็นต้นไป ส.ป.ก.ในพื้นที่ หรือผ่านทางเว็บไซต์ ส.ป.ก. www.alro.co.th /การบริการออนไลน์/ร้องเรียนร้องทุกข์
และสายด่วน ส.ป.ก. 1764 (Call Center) ต่อไป

เลขาธิการส.ป.ก.กล่าวด้วยว่า “ขั้นตอนการตรวจสอบ ที่ดินส.ป.ก. จะพิจารณาไปตามข้อเท็จจริงเช่นสภาพพื้นที่เป็นป่าก็ยังคงรักษาไว้ให้เป็นป่าเหมือนเดิมไม่มีการจัดรูปที่ดินหรือออกเอกสารส.ป.ก.ให้ และทุกขั้นตอนให้เป็นไปตามกฎหมายในทุกพื้นที่ทั่วประเทศไม่ว่าจะเป็นที่ภูเก็ต หรือ เขาใหญ่ก็ตาม เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าผู้ใดถือครองโดยไม่ถูกต้องก็ต้องยึดที่ดินกลับมาแล้วนำมาจัดสรรใหม่ให้กับเกษตรกรรายใหม่ หรือตรวจสอบว่าเป็นความผิดของใครที่ดำเนินการไม่ถูกต้องก็จะใช้กฎหมายจัดการทันที ไม่มีละเว้น และสิ่งสำคัญคือเกษตรกรเองก็ต้องได้รับความเป็นธรรม เพราะการจัดการที่ดินส.ป.ก.เป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาความยากจน”

นอกจากนี้ ไม่คิดจะโต้เถียงหรือตอบโต้ใดๆกับเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานอื่นที่ตรวจสอบการบุกรุก จะว่ากันตามข้อมูล ข้อเท็จจริง ขอให้ดูกันที่หลักฐานเป็นหลักผิดก็ว่าไปตามผิดถูกก็ว่าไปตามถูก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2567 ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้ลงนามแต่งตั้ง คณะอนุกรรมการการขับเคลื่อนการตรวจสอบและพิจารณาความผิดเกี่ยวกับผู้ได้รับการจัดที่ดินและผู้ถือครองที่ดินโดยมิชอบในเขตปฎิรูปที่ดิน โดยมีรมว.เกษตรและสหกรณ์เป็นประธาน

มีปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นรองประธาน อนุกรรมการ เช่น ผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด, ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.), เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.)​เป็นต้น