5ค่ายมือถือ จับมือศึกษาและพัฒนาระบบพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลโดยใช้ฐานข้อมูล จากเบอร์มือถือ

  • เพิ่มช่องทางการใช้บริการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของประชาชน
  • การส่งเสริมนโยบายรัฐบาลดิจิทัลไอดี
  • เสนอแนวทางตั้งบริษัท Mobile National ID

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2563 สมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้นำบริษัทโทรคมนาคม ประกอบไปด้วย บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) บริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด และ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด ลงนามในบันทึกความร่วมมือการศึกษาและพัฒนาระบบพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลโดยใช้ฐานข้อมูลจากเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ และแนวทางการจัดตั้งบริษัท Mobile National ID (MNID)

ทั้งนี้ทุกฝ่ายมีความเห็นร่วมกันว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นนวัตกรรมใหม่ของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมในการเพิ่มช่องทางในการใช้บริการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของประชาชนหรือหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ให้มีความสะดวก ปลอดภัย อีกทั้งยังเป็นการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และเป็นการส่งเสริมนโยบายรัฐบาลในเรื่องการใช้ดิจิทัลไอดีได้อีกด้วย

นายมนต์ชัย หนูสง นายกสมาคมโทรคมนาคมฯ กล่าวว่า ความร่วมมือดังกล่าว ถือว่าสอดคล้อง ตามนโยบายของภาครัฐในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล และยังสอดคล้องกับนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการกิจการ กระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่สนับสนุนและส่งเสริมผู้ประกอบกิจการมือถือ ในการให้บริการการพิสูจน์และยืนยันตัวบุคคลด้วยระบบดิจิทัล โดยใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลการลงทะเบียนผู้ใช้บริการมือถือ ด้วยระบบอัตลักษณ์ของอุตสาหกรรมโทรคมนาคม เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางส่งเสริมนวัตกรรมใหม่ในการใช้บริการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ประชาชนหรือหน่วยงานต่าง ๆ สามารถใช้บริการธุรกรรมทางอิเลคทรอนิกส์ ผ่านมือถือ ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

นายสืบศักดิ์ สืบภักดี กรรมการสมาคมโทรคมนาคมฯ กล่าวว่า ผู้ประกอบการทั้ง 5 รายจะร่วมกันแลกเปลี่ยนเทคโนโลยี ความรู้ และประสบการณ์ โดยอาจมีการทดลองรูปแบบการให้บริการในระบบ Sandbox เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้ง บริษัท Mobile National ID (MNID) โดยจะมีการศึกษาและกำหนดรูปแบบธุรกิจที่เหมาะสม ตลอดจนมีการร่างแผนธุรกิจร่วมกัน มีเป้าหมายเพื่อนำไปสู่การจัดตั้ง บริษัท MNID ไห้ได้โดยเร็ว ทุกฝ่ายให้ความสำคัญและจะใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล โดยทุกฝ่ายจะปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กฎหมายเกี่ยวกับการให้บริการธุรกรรมทางอิเลคทรอนิกส์ รวมถึงกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการทั้ง 5 รายจะพัฒนาระบบดังกล่าวในเบื้องต้น โดยที่ “แทนบัตร” หรือการพัฒนาระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนด้วยรูปแบบบัตรประจำตัวอิเล็กทรอนิกส์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่แทนที่บัตรประจำตัวในรูปแบบปกติ ซึ่งเป็นโครงการที่สำนักงาน กสทช. ได้ริเริ่มขึ้น ก็จะเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ค่ายมือถือ 5 รายจะนำไปพิจารณาในการพัฒนาระบบ

ปัจจุบัน การสมัคร หรือการเข้าใช้บริการธุรกรรมต่าง ๆ จากหน่วยงานทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ผู้ขอใช้บริการมักจะต้องเดินทางไปที่สาขาของหน่วยงานนั้นๆ ต้องกรอกข้อมูล และเซ็นรับรองเอกสารต่าง ๆ เพื่อพิสูจน์และยืนยันตัวตน ทำให้เกิดความไม่สะดวก เสียเวลา และมีความเสี่ยงที่มิจฉาชีพจะใช้เอกสารปลอม ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหาย การให้บริการพิสูจน์และยืนยันตัวตนโดย บริษัท Mobile National ID (MNID) จะเป็นนวัตกรรมทางเลือก ที่สามารถช่วยลดเวลา ขั้นตอน ค่าใช้จ่าย และช่วยลดความผิดพลาดต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากกระบวนการพิสูจน์และยืนยันตัวตน อีกทั้งยังช่วยอำนวยความสะดวกให้ประชาชน สามารถสมัคร และใช้บริการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สะดวก รวดเร็ว และง่ายดาย ผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยสามารถใช้เลขหมายมือถือ และอัตลักษณ์ เช่นลายนิ้วมือ และใบหน้า ช่วยในการพิสูจน์และยืนยันตัวตน ทำให้ลดความเสี่ยงจากความผิดพลาดต่าง ๆ โดยเห็นว่าในปัจจุบัน ระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่สามารถเป็นเครื่องมือพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลที่แพร่หลายและเข้าถึงประชาชนได้ดีที่สุด เนื่องจาก ผู้ใช้มือถือผ่านโครงข่ายของผู้ประกอบการทั้ง 5 ราย มีจำนวนมากถึง 130 ล้านเลขหมาย ซึ่งจะทำให้เลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่สามารถใช้รองรับดิจิทัลไอที( Digital ID )ได้อย่างกว้างขวาง