16 กันยา วันโอโซนโลก “ธนินท์” ลุยคิกออฟปลูกต้นไม้ลดโลกร้อน นำร่องเป็นต้นแบบให้กลุ่มธุรกิจในเครือ ตั้งเป้า 10 ล้านต้น ภายในปี 73

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (16 ก.ย.64) เครือเจริญโภคภัณฑ์ นำโดย นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส นายสุภกิตเจียรวนนท์ ประธานกรรมการ นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร นายณรงค์ เจียรวนนท์ รองประธานอาวุโสพร้อมด้วย นายธนิศร์ เจียรวนนท์  ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายพัฒนาธุรกิจต่างประเทศ และประสานธุรกิจเครือเจริญโภคภัณฑ์ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมกันร้อยเรียงความดีใน “วันโอโซนโลก” 16 กันยายน ซึ่งองค์การสหประชาชาติกำหนดให้วันนี้ของทุกปี เป็นวันโอโซนโลก เพื่อให้ทุกประเทศทั่วโลกตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม ด้วยการช่วยกันปกป้องชั้นบรรยากาศโอโซน  

โดยทางเครือซีพี ได้ร่วมรณรงค์ด้วยการจัดกิจกรรมปลูกต้นไม้ลงดินเพื่อลดโลกร้อน และคืนโอโซนให้ชั้นบรรยากาศผ่านโครงการ “ซีพี ร้อยรักษ์โลก” ณ สถาบันผู้นำ เครือเจริญโภคภัณฑ์ จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งถือเป็นต้นแบบนำร่องขับเคลื่อนนโยบายลดโลกร้อนปลูกต้นไม้ 10 ล้านต้น ภายในปี 2573 สอดคล้องตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่มุ่งสู่การเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ (Zero Carbon) 

ทั้งนี้ทุกบริษัทในเครือ อาทิ บมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร หรือ ซีพีเอฟ บมจ. ซีพี ออลล์  บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น บจ. เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม หรือ โลตัส บมจ. สยามแม็คโคร ฯลฯ จะต้องร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในช่วยลดโลกร้อนด้วยการปลูกต้นไม้ยืนต้นในพื้นที่ของบริษัท โรงงาน รวมถึงในชุมชนต่าง ๆ ทั่วประเทศให้ครบตามเป้าหมายที่กำหนด

นายธนินท์ กล่าวว่า เครือซีพีมีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจภายใต้การพัฒนาที่ยั่งยืน และที่สำคัญคือจะต้องขับเคลื่อนนโยบายปลูกต้นไม้ให้ได้ 10 ล้านต้น ภายในปี 2573 ซึ่งผู้บริหารและพนักงาน 4.5 แสนคนในทุกกลุ่มธุรกิจของเครือทั้งในประเทศ และต่างประเทศทั่วโลก จะต้องเป็นพลังสำคัญเพื่อการบรรลุเป้าหมายในการเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ (Zero Carbon) โดยกิจกรรมปลูกต้นไม้ในครั้งนี้ถือเป็นการสร้างคุณค่า และประโยชน์ให้กับสังคมและโลก การริเริ่มปลูกต้นไม้ยืนต้นของเครือซีพีในวันโอโซนโลกเพื่อนำร่องเป็นต้นแบบให้ทุกบริษัทในเครือเห็นถึงความสำคัญของนโยบายปลูกต้นไม้ลดโลกร้อนที่เครือซีพีได้ประกาศความมุ่งมั่น และเพื่อตอกย้ำถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับความยั่งยืน 

โดยต้นไม้ที่ได้นำมาปลูกลงดินในกิจกรรมครั้งนี้มาจากโครงการซีพีร้อยรักษ์โลก ที่เครือซีพีสร้างงานสร้างอาชีพให้เกษตรกรและชาวชุมชนชนบทมีรายได้จากการดูแลกล้าไม้ทดแทนรายได้หลักที่หายไปจากช่วงวิกฤตโควิด-19 ตอบโจทย์ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม

อย่างไรก็ตามสำหรับกล้าไม้ในโครงการซีพีร้อยรักษ์โลกประกอบด้วย 1.ไม้ป่าเศรษฐกิจ  ได้แก่ ต้นแดง ต้นพยูง ต้นประดู่ป่า ต้นมะค่าโมง ต้นชิงชัน ต้นสักทอง ต้นพยอม ต้นยางนา ต้นเก็ดแดง ต้นแคนา 2.ไม้ท้องถิ่น ได้แก่ ทองอุไรมะม่วงหิมพานต์  3.ไม้ป่าชายเลน ได้แก่ โกงกาง ลำพู ฝาดแดง/ฝาดขาว  และ 4.ไม้ผลกินได้ ได้แก่ มะม่วง (น้ำดอกไม้) กล้วยน้ำว้า ขนุน ฝรั่ง ทุเรียน มะพร้าวน้ำหอม